5 ความแตกต่างระหว่างการขายและการตลาด (Sales VS Marketing)
5 ความแตกต่างระหว่างการขายและการตลาด (Sales VS Marketing)

5 ความแตกต่างระหว่าง การขายและการตลาด (Sales VS Marketing)

การขายและการตลาดเป็นสองหน้าที่ที่สำคัญในธุรกิจ พวกเขาทำงานร่วมกันเพื่อสร้างการรับรู้ถึงสินค้าหรือบริการ เพื่อสร้างโอกาสในการขายและปิดดีล แต่อย่างไรก็ตามทั้งสองอย่างมีความแตกต่างกัน การขายคือการมุ่งเน้นไปที่การปิดดีลและสร้างรายได้ ตัวแทนฝ่ายขายมีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับลูกค้า สร้างความสัมพันธ์และโน้มน้าวให้พวกเขาซื้อสินค้าและบริการ พวกเขาจะใช้เทคนิคที่หลากหลายเพื่อปิดดีล เช่น การโทรติดต่อ การสาธิตสินค้า และการเจรจาต่อรอง

ส่วนการตลาดคือการใช้ช่องทางที่หลากหลายเพื่อเข้าถึงผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า เช่น การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ และโซเชียลมีเดีย โดยจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างการรับรู้และความต้องการในสินค้าหรือบริการ การตลาดทำกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลและแผนการตลาดเพื่อทำความเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและพัฒนากลยุทธ์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด

การตลาดคืออะไร ?

ความแตกต่างระหว่างการขายและการตลาด

การตลาด คือ กระบวนการสร้าง สื่อสาร ส่งมอบ และแลกเปลี่ยนข้อเสนอต่อกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้า ซึ่งเป็นกระบวนการทำความเข้าใจและวิเคราะห์ความต้องการของตลาดกลุ่มเป้าหมาย โดยกิจกรรมของการตลาด คือ การวิเคราะห์ตลาด , การพัฒนาผลิตภัณฑ์ , การตั้งราคา , การจัดจำหน่าย , การส่งเสริมการขาย เป็นต้น ดังนั้นการตลาดเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจเพื่อช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มยอดขาย และสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์

ประเภทของการตลาด

การตลาด (Marketing) สามารถแบ่งประเภทได้หลายรูปแบบ ดังนี้

  • Traditional marketing (การตลาดแบบดั้งเดิม)
    ใช้ช่องทางสื่อดั้งเดิมในการทำการตลาด สามารถเข้าถึงผู้ชมจำนวนมาก ประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถกำหนดเป้าหมายไปยังกลุ่มประชากรเฉพาะได้  เช่น สิ่งพิมพ์ โทรทัศน์และวิทยุ เป็นต้น
  • Digital marketing (การตลาดออนไลน์)
    ใช้ช่องทางดิจิทัล เข้าถึงผู้ชมทั่วโลก กำหนดเป้าหมายสูง วัดผลได้และประหยัดงบประมาณในการทำการตลาด เช่น Search Engine Optimization (SEO) , Social Media Marketing , Email Marketing และ Content Marketing เป็นต้น
  • Direct marketing (การตลาดทางตรง)
    เกี่ยวข้องกับการส่งเอกสารทางการตลาดโดยตรงไปยังผู้มีโอกาสที่จะเป็นลูกค้า เช่น ทางไปรษณีย์หรืออีเมลโดยตรง สามารถกำหนดเป้าหมายได้สูง วัดผลได้และประหยัดต้นทุนในการทำการตลาด
  • ประชาสัมพันธ์
    สร้างความสัมพันธ์กับสื่อและอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อสร้างการประชาสัมพันธ์ที่ดีสำหรับธุรกิจของคุณซึ่งการประชาสัมพันธ์สามารถช่วยสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ สร้างโอกาสในการขายและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร
  • ส่งเสริมการขาย
    เสนอแรงจูงใจให้กับลูกค้าในการซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ เช่น ส่วนลด คูปอง หรือแจกสินค้าฟรี เพื่อสามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ได้ กระตุ้นการซื้อซ้ำ และเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ

การตลาดเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการสร้างความสำเร็จในธุรกิจ และการใช้วิธีการตลาดที่เหมาะสมสามารถช่วยให้ธุรกิจเติบโตและเจริญรุ่งเรืองได้อย่างต่อเนื่อง

ประโยชน์ของการตลาด

การตลาดเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจและมีความสำคัญมากในการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจให้เติบโตและนี่คือประโยชน์หลักของการตลาด

  • เพิ่มยอดขาย
    การตลาดสามารถช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงเป้าหมายและสามารถหาลูกค้ารายใหม่และเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้
  • การรับรู้ถึงแบรนด์
    การตลาดสามารถช่วยให้คุณสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจของคุณ
  • ความสัมพันธ์กับลูกค้าที่ดีขึ้น
    การตลาดสามารถช่วยให้คุณสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับลูกค้าและเข้าใจความต้องการของพวกเขา
  • ความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น
    การตลาดสามารถช่วยให้คุณปรับปรุงความสามารถในการทำกำไรโดยการเพิ่มยอดขายและลดต้นทุน
  • ความภักดีต่อแบรนด์ที่เพิ่มขึ้น
    การตลาดสามารถช่วยคุณเพิ่มความภักดีต่อแบรนด์โดยการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าของคุณ
  • ปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้า
    การตลาดสามารถช่วยให้คุณปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้าโดยการเข้าใจความต้องการและตอบสนอง
  • ส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้น
    การตลาดสามารถช่วยให้คุณเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดโดยการเข้าถึงลูกค้าใหม่และดึงดูดลูกค้ามาที่สินค้าหรือบริการของคุณ
  • ประหยัดงบประมาณ
    การตลาดสามารถช่วยให้คุณลดต้นทุนทางการตลาดได้โดยใช้กลยุทธ์หรือแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพและกำหนดกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดได้

การขายคืออะไร ?

Sales VS Marketing

การขาย คือ กระบวนการขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้า เนื่องจากมีหน้าที่ในการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ พนักงานขายมีหน้าที่รับผิดชอบในการระบุและคัดเลือกลีดที่มีคุณภาพ พัฒนาความสัมพันธ์และปิดดีลการขายกับลูกค้า

 ประเภทของการขาย

การขายมีหลายประเภทที่แตกต่างกันตามลักษณะของการซื้อขายและกลยุทธ์ที่ใช้ในการส่งเสริมการขาย นี่คือบางประเภทของการขายที่พบบ่อย

  • การขายแบบ B2B  (Business-to-Business)
    คือ กระบวนการขายสินค้าหรือบริการที่เกิดขึ้นระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ
  • การขายแบบ B2C (Business-to-Consumer)
    คือ การขายสินค้าหรือบริการให้กับผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งจะเป็นบุคคลทั่วไปหรือผู้บริโภคแต่จะไม่ใช่องค์กรหรือธุรกิจอื่นๆ
  • การขายตรง (Direct Selling)
    การขายประเภทนี้เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าหรือบริการโดยตรงให้กับลูกค้าโดยไม่ต้องใช้ตัวกลาง
    ทำให้ผู้ขายและเชื่อมความสัมพันธ์กันได้โดยตรง
  • การขายภายใน (Internal Selling)
    คือ กระบวนการขายสินค้าหรือบริการภายในองค์กร โดยการนำสินค้าหรือบริการที่องค์กรมีอยู่ในสต็อกมาขายให้กับสมาชิกหรือพนักงานภายในองค์กร การขายภายในมักเกิดขึ้นเพื่อส่งเสริมการใช้สินค้าหรือบริการภายในองค์กรเองหรือเพื่อส่งเสริมภารกิจและเป้าหมายขององค์กร
  • การขายภาคสนาม (Field Sales)
    คือ การขายสินค้าหรือบริการโดยผู้ขายต้องออกไปสำรวจตลาดหรือกลุ่มเป้าหมายโดยตรงเพื่อติดต่อลูกค้าและให้คำแนะนำแก่ลูกค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่องค์กรขาย

การขายเป็นกระบวนการสำคัญในธุรกิจที่ช่วยให้ธุรกิจมีรายได้และก้าวสู่ความสำเร็จ การเลือกใช้กลยุทธ์ขายที่เหมาะสมสามารถสร้างความต้องการและสนับสนุนการซื้อสินค้าหรือบริการอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าอย่างยั่งยืน

ประโยชน์ของการขาย

  • สร้างรายได้สูง
    ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งอาชีพที่สร้างรายได้สูงตั้งแต่นักศึกษาจบใหม่จนไปถึงผู้มีประการณ์ การขายสามารถสร้างรายได้ที่มากและบางบริษัทก็อาจจะให้รายได้ที่ไม่จำกัดเพดาน การขายจึงเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่คนให้ความสนใจ
  • โอกาสที่หลากหลาย
    มีงานขายหลายประเภทให้คุณได้เลือก ดังนั้นคุณสามารถค้นหางานที่เหมาะกับความสนใจและทักษะของคุณได้ นั้นหมายความว่าคุณจะได้รับทักษะและโอกาสในการทำงานที่มีความหลากหลายมากขึ้น
  • ความท้าทาย
    การขายอาจเป็นอาชีพที่ท้าทายและมาพร้อมกับความคุ้มค่า ยิ่งคุณทำยอที่ทะลุเป้า คุณจะสามารถสร้างรายได้ที่มหาศาลให้กับตนเองและผลกำไรที่ดีให้กับบริษัทได้
  • การเดินทาง
    งานขายบางอย่างเกี่ยวข้องกับการเดินทางซึ่งอาจเป็นวิธีที่ดีในการผจญภัยกับโลกภายนอก ยิ่งคุณมีการเดินทางที่มากเท่าไหร่ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการเดินทางหรือรู้เส้นทางของคุณก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
  • ประสบการณ์
    การขายสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจให้กับคุณได้ คุณจะพบกับประสบการณ์ใหม่ๆอยู่ตลอดเวลาเพราะงานขายทำให้ได้เจอลูกค้าที่ไม่ซ้ำทำให้คุณได้พัฒนาและก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง
  • เป็นผู้ฟังที่ดี
    หนึ่งในทักษะที่สำคัญที่สุดในการขายคือ ความสามารถในการรับฟัง การเป็นผู้รับฟังที่ดีสามารถต่อยอดให้กับสายงานหรือนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้ ซึ่งการเป็นผู้รับฟังไม่ใช่ใครก็สามารถเป็นได้ 
  • เป็นคนมีความมั่นใจ
    ความมั่นใจเป็นสิ่งที่สำคัญในการขาย ซึ่งหากเราทำงานและมีประสบการณ์ที่มากขึ้นคุณก็จะเป็นคนที่มีความมั่นใจในการพูด การแต่งตัว บุคลิกภาพที่ดีขึ้น และหากคุณเชื่อมั่นในตัวเองและสินค้าหรือบริการของคุณ คุณจะมีโอกาสประสบความสำเร็จในสายงานนี้

การตลาดกับการขายแตกต่างกันอย่างไร

  • การตลาด (Marketing)
Sales VS Marketing

1. เน้นการสร้างการรับรู้และความต้องการ

การตลาดที่เน้นการสร้างการรับรู้และความต้องการเรียกว่าการตลาดแบบสร้างอุปสงค์ เป็นการตลาดขาเข้าประเภทหนึ่งที่ใช้ช่องทางที่หลากหลายเพื่อเข้าถึงลูกค้าและให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ เป้าหมายของการตลาดแบบนี้คือการสร้างการรับรู้ สร้างลีด และเปลี่ยนลีดให้เป็นลูกค้า

2. การเข้าถึงลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ

มีช่องทางการตลาดมากมายให้คุณได้ใช้ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของคุณ แต่ด้วยช่องทางการตลาดมากมายที่มีให้คุณได้เลือก คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าควรเลือกใช้ช่องทางใด และนี่คือช่องทางต่างๆที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและเพิ่มยอดขายให้กับคุณ

  • Search engine optimization (SEO)
  • Content marketing
  • Email marketing
  • Social media marketing
  • Word-of-Mouth Marketing (การตลาดปากต่อปาก) 
  • Influencer marketing
  • Offline advertising
  • Online advertising
  • Partnership marketing
  • Community building

3. เนื้อหาการศึกษาและข้อมูล

เมื่อเลือกเนื้อหาและการศึกษาด้านการตลาดแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาเป้าหมายและผู้ติดตามของคุณ หากคุณกำลังมองหาแผนการตลาดหรือภาพรวมทั่วไปของการตลาด บล็อกโพสต์หรือพอดแคสต์อาจเป็นตัวเลือกที่ดี หากคุณกำลังมองหาความเข้าใจเชิงลึกในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง eBook หรือหลักสูตรอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า และหากคุณกำลังมองหาสถาบันเรียนการตลาด คอร์ส คอร์ส Advanced Digital Marketing Certificate อาจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ไม่ว่าคุณจะเลือกเนื้อหาการศึกษาด้านการตลาดแบบใด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเกี่ยวข้องกับเป้าหมายและผู้ติดตามของคุณ การศึกษาเนื้อหาและข้อมูลทำให้การทำการตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น

4. เป้าหมายระยะยาว

การตลาดสามารถสร้างโอกาสในการขาย การรับรู้ถึงแบรนด์ สร้างการรับรู้ถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ผ่านการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ สิ่งนี้สามารถนำไปสู่โอกาสในการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ ซึ่งการตลาดจะมีเป้าหมายระยะเวลาที่มากกว่าการขาย 

5. เมทริกซ์การตลาด (Marketing Matrix) ความสำเร็จทางการตลาดมักจะวัดผ่านเมตริกต่างๆ เช่น การรับรู้ถึงแบรนด์ การเข้าชมเว็บไซต์ การมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย อัตราการแปลง และต้นทุน ข้อมูลทั้งหมดนี้จะได้จากลูกค้า โดยทีมการตลาดจะนำมาวิเคราะห์กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลและแผนการตลาด

  • การขาย (Sales)
Sales VS Marketing

1. มุ่งเน้นไปที่การปิดดีลและสร้างรายได้

การมุ่งเน้นไปที่การปิดดีลและสร้างรายได้ของฝ่ายขายเป็นเป้าหมายที่สำคัญในการตลาด เนื่องจากฝ่ายขายเป็นผู้ที่ติดต่อกับลูกค้าโดยตรงและมีบทบาทสำคัญในการขายสินค้าหรือบริการขององค์กร นอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อรายได้และกำไรของธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา

2. ปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า

การปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับลูกค้าของการขายคือกระบวนการที่ฝ่ายขายมีการติดต่อหรือสื่อสารกับลูกค้าโดยตรงเพื่อสร้างความน่าสนใจและความเชื่อมั่นในสินค้าหรือบริการ การปฏิสัมพันธ์โดยตรงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและส่งผลให้เกิดการซื้อขายและความพอใจในระยะยาว

3. เทคนิคการโน้มน้าวใจ

การโน้มน้าวใจของฝ่ายขายเป็นเทคนิคหนึ่งที่ใช้ในกระบวนการขายสินค้าหรือบริการ การโน้มน้าวใจเป็นการใช้คำพูด ความสามารถในการสื่อสาร และเทคนิคการตลาดเพื่อสร้างความน่าสนใจ ความพอใจ และความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าเพื่อให้พวกเขาตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการขององค์กร นี่คือบางเทคนิคที่ใช้ในการโน้มน้าวใจของฝ่ายขาย

  • การให้ข้อมูลและข้อเสนอที่น่าสนใจ
    การนำเสนอข้อมูลและข้อเสนอที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์สำหรับลูกค้า เช่น การแสดงจุดเด่นของสินค้าหรือบริการ ความแตกต่างของแบรนด์คุณกับคู่แข่ง คุณสมบัติที่โดดเด่น หรือโปรโมชั่นที่น่าสนใจ
  • การเน้นคุณค่าและประโยชน์ของสินค้าหรือบริการ
    การโฆษณาคุณค่าและประโยชน์ของสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้า เช่น ความคุ้มค่า ความประทับใจที่ลูกค้าจะได้รับ หรือการแก้ปัญหาของลูกค้า
  • การสร้างความพิเศษให้กับสินค้า
    การสร้างความพิเศษในสินค้าหรือบริการขององค์กร เช่น การออกสินค้าใหม่ โปรโมชั่นพิเศษ หรือสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจ เป็นต้น
  • การสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือ
    การสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าสินค้าหรือบริการขององค์กรมีคุณภาพและเป็นน่าเชื่อถือ การให้บริการหลังการขายที่ดีและการตอบสนองต่อข้อสงสัยของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือ

4. เป้าหมายระยะสั้น

การขายเน้นในการส่งเสริมยอดขายในระยะเวลาที่สั้นๆ ซึ่งมักเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนหรือหนึ่งไตรมาส การตั้งเป้าหมายระยะสั้นช่วยนำไปสู่ความสำเร็จของการขายและให้ผลลัพธ์ที่ดีในช่วงระยะเวลาที่กำหนดไว้ 

5. เมทริกซ์การขาย (Sales Matrix)

เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวางแผนและติดตามผลการขายขององค์กร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์และจัดระบบข้อมูลการขายให้อยู่ในรูปแบบที่มอบข้อมูลที่ชัดเจนและเข้าใจง่ายในกระบวนการบริหารการขาย ความสำเร็จของการขายวัดจากเมทริกซ์ต่างๆ เช่น จำนวนดีลที่ปิดได้ รายได้จากการขาย การเติบโตของยอดขาย การรักษาลูกค้า และขนาดดีลเฉลี่ย เป็นต้น

สรุป

การตลาดกับการขายแตกต่างกันอย่างไร การขายมุ่งเน้นที่การแปลงลีดให้เป็นลูกค้าและสร้างรายได้ ในขณะที่การตลาดมุ่งเน้นไปที่การสร้างการรับรู้และสร้างความสนใจ ทั้งสองอย่างนี้ทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมและขายสินค้าหรือบริการ ซึ่งมีความสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจ สิ่งที่การขายและการตลาดมีเหมือนกันนั่นคือเป้าหมาย