7 เทคนิคง่ายๆ ลดอัตรา Bounce Rate บนเว็บไซต์ของคุณ

หนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่นักการตลาดและเจ้าของเว็บไซต์ต้องการคือการลดอัตรา Bounce Rate หรือ “อัตราตีกลับ” เนื่องจากอัตราตีกลับที่สูงมักแสดงถึงปัญหาของเว็บไซต์ ซึ่งในโลกของการทำธุรกิจออนไลน์การแก้ไขปัญหาอัตราตีกลับเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก การลดอัตราตีกลับนั้นสำคัญต่อ SEO และประสิทธิภาพของเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่มีอัตราตีกลับต่ำแสดงว่าผู้ใช้มีส่วนร่วมกับเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่ออันดับการค้นหาใน Google

ความสำเร็จของเว็บไซต์ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ผู้เข้าชมจะอยู่บนเว็บไซต์ ถ้าพวกเขาออกจากเว็บไซต์ของคุณโดยไม่ทำอะไรเลย นั่นอาจหมายความว่าเว็บไซต์ของคุณกำลังเกิดปัญหาและต้องหาทางออกหรือวิธีแก้ Bounce Rate โดยเร็วที่สุด! ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาบอกเทคนิคง่าย ๆ เพื่อช่วยลด Bounce Rate และทำให้ผู้เข้าชมอยู่บนเว็บไซต์ของคุณได้นานยิ่งขึ้น

Bounce Rate คืออะไร

“อัตราตีกลับ” หรือ Bounce Rate คือ อัตราที่บ่งบอกถึงการเข้าชมหน้าเว็บไซต์เพียงหน้าเดียวแล้วออกไปโดยทันทีโดยไม่ทำใด ๆ ต่อไปในหน้าเว็บไซต์เพิ่มเติม หากใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายคือเมื่อมีผู้เข้าชมเข้ามายังหน้าเว็บไซต์แล้วไม่ทำการคลิกไปยังหน้าอื่นในเว็บไซต์ ซึ่งการทำนี้ถือว่าเป็น “การถอยออก” หรือ “การปฏิเสธ” ของผู้เยี่ยมชมต่อเนื้อหาหรือบริการบนเว็บไซต์

อัตราตีกลับเป็นตัววัดที่สำคัญในการวัดประสิทธิภาพของหน้าเว็บไซต์ และสามารถช่วยให้เข้าใจถึงความน่าสนใจของเนื้อหา ประสบการณ์ผู้ใช้ และปัญหาที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ได้ อัตราตีกลับที่สูงส่งผลว่ามีจำนวนมากของผู้เข้าชมที่ไม่ต้องการสนใจหรือไม่พอใจกับเนื้อหาหรือประสบการณ์บนเว็บไซต์นั้น ๆ ซึ่งต้องทำการปรับปรุงหรือการจัดการที่เหมาะสมเพื่อลด Bounce Rate ลงในอนาคต

Bounce Rate ที่ดีควรอยู่ที่เท่าไหร่

อัตราตีกลับที่ดีจะขึ้นอยู่กับประเภทของเว็บไซต์

  • เว็บไซต์แบบ Landing Page 
    มักจะมีอัตราตีกลับที่สูงอยู่แล้ว เพราะผู้เข้าชมเว็บไซต์มักจะเข้ามาเพื่อทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น กรอกแบบฟอร์ม หรือ สมัครสมาชิก
  • เว็บไซต์แบบบล็อก 
    มักจะมีอัตราตีกลับที่ต่ำเพราะผู้เข้าชมเว็บไซต์มักจะอ่านบทความอื่น ๆ บนเว็บไซต์ของคุณ

เกณฑ์ทั่วไป

  • Bounce Rate ต่ำกว่า 40% = ดีมาก
  • Bounce Rate อยู่ระหว่าง 40% ถึง 55% = อยู่ในระดับปานกลาง
  • Bounce Rate สูงกว่า 55% = ไม่ดี

การคำนวณ Bounce Rate

Bounce Rate = (จำนวนเซสชันหน้าเว็บเดียว / จำนวนเซสชันทั้งหมด) x 100

ตัวอย่าง

หากเว็บไซต์ของคุณมี 100 เซสชัน
20 เซสชันเป็นเซสชันหน้าเว็บเดียว
อัตราตีกลับของเว็บไซต์ของคุณ = (20 / 100) x 100 = 20%

สาเหตุหลักที่ทำให้ Bounce Rate สูง

1. เนื้อหาไม่น่าสนใจหรือไม่เกี่ยวข้อง
เนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์อาจไม่น่าสนใจหรือไม่ตรงกับความต้องการหรือความสนใจของผู้เข้าชม เช่น ข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ หรือเนื้อหาที่ไม่ตรงกับคำค้นหาที่ผู้ใช้กรอกเข้ามาในเครื่องมือค้นหา

2. ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ไม่น่าพอใจ 
ปัญหาทางเทคนิคหรือประสบการณ์ผู้ใช้ที่ไม่น่าพอใจอาจทำให้ผู้เข้าชมไม่สนใจและเลือกออกจากเว็บไซต์โดยไม่ทำการคลิกไปยังหน้าอื่น ๆ

3. การนำทางไม่เหมาะสม
การนำทางบนเว็บไซต์ที่ซับซ้อนหรือไม่ชัดเจนอาจทำให้ผู้เข้าชมหลงสับสนและออกจากเว็บไซต์

4. เว็บไซต์โหลดช้า
เว็บไซต์ที่โหลดช้าสามารถทำให้ผู้เข้าชมไม่พอใจและออกจากเว็บไซต์โดยทันที

5. ข้อผิดพลาดในการติดตาม
การติดตามและวิเคราะห์ผลบนเว็บไซต์อาจไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนทำให้ไม่สามารถหาสิ่งที่ต้องการได้ ซึ่งอาจทำให้ผู้เข้าชมไม่ต้องการทำการค้นหาเพิ่มเติมหรือคลิกไปยังหน้าอื่น

7 เทคนิค! ลดอัตรา Bounce Rate

1. ปรับปรุงความเร็วในการโหลดเว็บไซต์
บีบอัดขนาดรูปภาพ
เลือกใช้เว็บโฮสติ้งที่มีประสิทธิภาพ
แคชเนื้อหาเว็บไซต์
ปรับแต่งโค้ดเว็บไซต์

2. เขียนเนื้อหาที่น่าสนใจและตรงประเด็น
เลือกหัวข้อที่ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย
เขียนเนื้อหาให้อ่านง่าย กระชับ และเข้าใจได้
ใส่รูปภาพ วิดีโอ หรือ Infographic เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ
ใช้ประโยชน์จาก SEO เพื่อเพิ่มโอกาสในการค้นหา

3. ออกแบบเว็บไซต์ให้น่าสนใจและใช้งานง่าย
เลือกใช้สีสันและตัวอักษรที่อ่านง่าย
จัดวางเนื้อหาให้เป็นระเบียบ
ใส่เมนูการใช้งานที่ชัดเจน
ปรับให้เว็บไซต์รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์มือถือ

4. การปรับปรุงประสิทธิภาพของการนำทาง
ออกแบบการนำทางบนเว็บไซต์ให้เข้าใจง่ายและชัดเจน เพื่อให้ผู้เข้าชมสามารถค้นหาข้อมูลหรือสินค้าได้อย่างสะดวก

5. กระตุ้นให้ผู้ใช้ดำเนินการ (Call to Action)
ใส่ปุ่ม Call to Action ที่ชัดเจน
บอกผู้ใช้ว่าคุณต้องการให้พวกเขาทำอะไร
เสนอสิ่งจูงใจ เช่น ส่วนลด บทความฟรี หรือ e-book

6. วิเคราะห์และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ใช้ Google Analytics เพื่อติดตามอัตราตีกลับของเว็บไซต์
วิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้ผู้ใช้ตีกลับ
ทดสอบและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ต่าง ๆ

7. ติดตามผล
ติดตามอัตราตีกลับของเว็บไซต์ของคุณด้วย Google Analytics
วิเคราะห์ข้อมูลและหาสาเหตุที่ทำให้อัตราตีกลับสูง
แก้ไขปัญหาและติดตามผลลัพธ์

ตัวอย่างกลยุทธ์เพิ่มเติม

  • ใช้ Pop-up หรือ Exit Intent Pop-up เพื่อนำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
  • แสดงเนื้อหาที่แนะนำหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
  • เพิ่มระบบ Live Chat เพื่อตอบคำถามผู้ใช้
  • ใช้ A/B Testing เพื่อทดสอบว่ากลยุทธ์ใดมีประสิทธิภาพมากกว่า

หากท่านใดกำลังประสบปัญหาโหลดเว็บไซต์โหลดช้า , เนื้อหาไม่น่าสนใจ , การออกแบบเว็บไซต์ไม่ดี , ผู้ใช้หาสิ่งที่ต้องการไม่เจอ , เว็บไซต์ไม่รองรับการใช้งานบนมือถือ , ข้อมูลบนเว็บไซต์ไม่ตรงกับโฆษณา IDMCouncil เปิดคอร์สเรียน Website Optimization การจัดการเว็บไซต์ให้เหมาะสม อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เข้าถึงเป้าหมายของธุรกิจ และช่วยให้จัดการได้อย่างเหมาะสม สอนโดยอาจารย์ผู้สอนที่ได้การรับรองมาตรฐานความรู้จากสถาบันระดับโลก ซึ่งปัจจุบันทำงานทางด้าน Online Marketing มีประสบการณ์ตรง

สรุป

การลด Bounce Rate มักเป็นเป้าหมายสำคัญของนักการตลาดหรือเจ้าของเว็บไซต์เนื่องจากอัตรา Bounce Rate ที่ต่ำช่วยเพิ่มโอกาสในการเพิ่มรายได้หรือการบริโภคเนื้อหามากขึ้นในระยะยาว การเพิ่มประสิทธิภาพในการลดอัตราตีกลับสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าใช้บริการหรือสินค้าของเว็บไซต์ร่วมด้วย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

Save