Google Data Studio ตัวช่วยสำคัญในการทำธุรกิจ

ในยุคที่ข้อมูลเป็นสิ่งที่สำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน Google Data Studio เกิดขึ้นจากความต้องการในการนำเสนอข้อมูลที่เข้าใจและสื่อสารได้ง่าย ที่มาของ Data Studio มีหลักการในการทำให้ข้อมูลและการวิเคราะห์เป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างรายงานและแผนภูมิที่มีความสวยงามและสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Data Studio พัฒนาโดย Google เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการเครื่องมือที่ไม่ซับซ้อนและสามารถเข้าถึงได้ฟรี เป็นการทำงานร่วมกับแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น Google Analytics , Google Sheets และBigQuery ทำให้ผู้ใช้งานสามารถนำเข้าข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ มาใช้ได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ

 Google Data Studio คืออะไร

Data Studio เป็นเครื่องมือที่ช่วยรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจาก Insights เพื่อแสดงภาพข้อมูลบนเว็บที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างแดชบอร์ด (Dashboard) ที่กำหนดเองและรายงานที่เข้าใจง่าย ช่วยในการติดตาม KPI ที่สำคัญของลูกค้า แสดงภาพแนวโน้มและเปรียบเทียบประสิทธิภาพในช่วงระยะเวลาหนึ่ง พร้อมทั้งสรุปข้อมูลที่ได้ออกมาเป็นตาราง แผนภูมิ หรือกราฟเส้น โดยดึงมาจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น Google Analytics , Google Ads , Facebook , Instagram , YouTube , Excel และCSV เป็นต้น นักการตลาดมือใหม่สามารถลองไปทดลองเล่นกับเครื่องมือนี้ได้เพราะใช้งานไม่ยากอย่างที่คิดและที่สำคัญคือเปิดให้ใช้งานได้อย่างฟรี ๆ

ตัวอย่างการใช้งาน Google Data Studio
– วิเคราะห์ผลการดำเนินงานของเว็บไซต์
– วิเคราะห์ผลการดำเนินงานของแคมเปญโฆษณา
– วิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า
– ติดตาม KPI ของธุรกิจ
– สรุปข้อมูลสำหรับนำเสนอ

องค์ประกอบ Google Data Studio

Google Data Studio  ประกอบไปด้วยองค์ประกอบ 2 ส่วนหลัก ดังนี้
1. Data Sources หมายถึง แหล่งข้อมูลที่ Data Studio ดึงข้อมูลมาเพื่อแสดงผลในรายงานและ Dashboard แหล่งข้อมูลเหล่านี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
Google Connectors หมายถึง แหล่งข้อมูลที่ได้มาจาก Google  เช่น Google Analytics , Google Ads , Google Sheets และBigQuery เป็นต้น
Partner Connectors หมายถึง แหล่งข้อมูลจากภายนอก Google เช่น Facebook Ads, Salesforce, X Ads เป็นต้น
2. Report หมายถึง รายงานหรือ Dashboard ที่แสดงผลข้อมูลจาก Data Sources ผู้ใช้สามารถสร้างรายงานและ Dashboard ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น
ตาราง : แสดงผลข้อมูลออกมาในรูปแบบตาราง
กราฟ : แสดงผลข้อมูลในรูปแบบกราฟ เช่น กราฟแท่ง กราฟเส้น กราฟวงกลม
แผนที่ : แสดงผลข้อมูลบนแผนที่
ตัวกรอง : ผู้ใช้สามารถกรองข้อมูลเพื่อแสดงผลเฉพาะข้อมูลที่ต้องการได้
การคำนวณ : ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์คำนวณค่าต่าง ๆ เพิ่มเติมจากข้อมูลที่มีอยู่

ขั้นตอนการสร้างรายงาน Google Data Studio

1. เข้าสู่ระบบ https://lookerstudio.google.com/u/0/navigation/reporting 
ลงชื่อเข้าใช้ Google Data Studio โดยคลิกไปที่ลิงก์นี้ >>  Google Data Studio  >> เมื่อคลิกลิงก์เรียบร้อยจะปรากฎรูปภาพตามด้านล่าง >> เลือก USE IT FOR FREE

2. เลือกเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลที่ต้องการ 
มีข้อมูลให้เลือกหลากหลายกว่า 750 รายการ ทั้งของ Google และจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ  ยกตัวอย่างเช่น Google Analytics , Google Ads , Google Sheets , BigQuery , Salesforce , Facebook Ads เป็นต้น

หากต้องการดึงข้อมูลจากหลังบ้านเว็บไซต์ Google Analytics หรือ Google Search Console จะต้องทำการติดตั้ง Google Tag Manager ให้เรียบร้อยเสียก่อน

3. สร้าง Report
เมื่อเลือกแหล่งข้อมูลที่จะดึงได้แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือ >> การสร้าง Report ใหม่ บน Data Studio  >> คลิก New Report และ Blank Report

4. เลือกรูปแบบการแสดงข้อมูล
หลังจากสร้าง Report เสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเลือกรูปแบบการแสดงข้อมูลได้ว่าจะแสดงเป็นรูปแบบไหน เช่น กราฟ ตาราง แผนภูมิ แผนที่ หรือGauge Chart เป็นต้น เมื่อเลือกรูปแบบการแสดงผลข้อมูลเรียบร้อย ระบบจะ Generate Report บนหน้า Dashboard เพียงเท่านี้! คุณก็สามารถได้ Dashboard ที่แสดงภาพรวมของข้อมูลทั้งหมด

เมื่อคลิกเลือก Template ระบบจะ Generate Report บนหน้า Dashboard ให้คุณ นี่คือความง่ายและสะดวกที่ Google Data Studio มีให้คุณ

ประโยชน์ของ Google Data Studio สำหรับธุรกิจ

Google Data Studio เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจ ช่วยให้ธุรกิจสามารถแปลงข้อมูลเป็นรายงานและ Dashboard ให้ข้อมูลที่ปรับแต่งได้ ช่วยให้ธุรกิจสามารถเห็นภาพข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดให้ดียิ่งขึ้น 

ประโยชน์ของ Data Studio สำหรับธุรกิจ มีดังนี้ 
1. เห็นภาพข้อมูลได้ชัดเจน
– ช่วยให้ธุรกิจสามารถเห็นภาพข้อมูลของตนได้อย่างง่ายดาย โดยใช้กราฟ แผนภูมิ ตาราง และอื่นๆ
– ช่วยให้เข้าใจข้อมูลและค้นหาข้อมูลเชิงลึกได้ง่ายขึ้น
– ช่วยให้ติดตามประสิทธิภาพของธุรกิจและระบุปัญหาได้ตรงจุด

2. วิเคราะห์ข้อมูล 
– ช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ลึกขึ้น
– ช่วยค้นหาข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้เพื่อพัฒนาธุรกิจ

3. ตัดสินใจ
– ช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นโดยอิงจากข้อมูล
– ช่วยให้ลดความเสี่ยงในการตัดสินใจ
– ช่วยให้เพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ

4. ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
– ช่วยให้ธุรกิจสามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการจัดการข้อมูล
– ช่วยให้รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน
– ช่วยให้สร้างรายงานและ Dashboard ได้อย่างง่ายดาย

5. เพิ่มประสิทธิภาพ
– ช่วยให้ธุรกิจเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
– ช่วยให้ระบุจุดอ่อนและจุดแข็งของธุรกิจ
– ช่วยพัฒนาธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น

ข้อดี – ข้อจำกัดในการใช้ Google Data Studio

ข้อดีของ Google Data Studio

1. ใช้งานฟรี!
Data Studio มีเวอร์ชันฟรีที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เวอร์ชันฟรีมีฟีเจอร์พื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการสร้างรายงานและ Dashboard

2. ใช้งานง่าย (นักการตลาดมือใหม่สามราถใช้งานได้)  
Data Studio มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ผู้ใช้สามารถลากและวางองค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อสร้างรายงานและ Dashboard ได้อย่างง่ายดาย

3. ปรับแต่งได้ตามใจชอบ
Data Studio ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งรายงานและ Dashboard ให้ตรงกับความต้องการและสามารถเปลี่ยนธีม สี ตัวอักษร และอื่น ๆ

4. เชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลได้หลากหลาย
Data Studio สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลได้หลากหลายทั้งภายในและภายนอกองค์กร ผู้ใช้สามารถดึงข้อมูลจาก Google Analytics , Google Ads , Google Sheets , BigQuery , Salesforce , Facebook Ads และอื่น ๆ อีกมากมาย

5. แชร์รายงานและแดชบอร์ด 
Data Studio ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์รายงานและแดชบอร์ดกับผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย

6. รองรับได้หลายอุปกรณ์
Data Studio รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์หลากหลาย เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน

7. มีเทมเพลตให้เลือกใช้
Data Studio มีเทมเพลตให้เลือกใช้มากมาย ผู้ใช้สามารถเลือกเทมเพลตที่ตรงกับความต้องการและปรับแต่งเพิ่มเติมเองได้

ข้อจำกัดของ Google Data Studio

1. บางฟีเจอร์จำกัดเฉพาะเวอร์ชัน Pro
มีบางฟีเจอร์ของ Data Studio จำกัดให้เฉพาะเวอร์ชัน Pro เช่น การเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลแบบ BigQuery , การสร้างรายงานแบบกำหนดเอง และการแบ่งปันรายงานกับผู้อื่น

2. การเรียนรู้การใช้งาน
Data Studio มีฟีเจอร์มากมายให้ผู้เล่นได้เลือกใช้ แต่บางฟีเจอร์จำเป็นต้องใช้เวลาในการเรียนรู้

3. การเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลบางประเภทอาจทำได้ยาก
การเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลบางประเภทอาจทำได้ยาก ผู้ใช้จำเป็นต้องมีความรู้ทางเทคนิค

4. การแชร์รายงานและแดชบอร์ด
Data Studio มีข้อจำกัดในการแชร์รายงานและแดชบอร์ด ผู้ใช้จำเป็นต้องมีบัญชี Google Workspace เพื่อแชร์รายงานและแดชบอร์ดกับผู้อื่น

Google Data Studio เหมาะสำหรับใคร

1. นักการตลาด 
Data Studio ช่วยให้นักการตลาดสามารถติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดและวัดผลลัพธ์
2. นักขาย 
Data Studio ช่วยให้นักขายสามารถติดตามประสิทธิภาพของทีมขายและระบุโอกาสใหม่ ๆ ในการปิดการขาย
3. นักวิเคราะห์ข้อมูล 
ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล ค้นหาข้อมูลเชิงลึกและสร้างออกมาเป็น Dashboard ทำให้ง่ายต่อทำงานของนักวิเคราะห์
4. ผู้ประกอบการ 
Data Studio ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถติดตามประสิทธิภาพของธุรกิจและตัดสินใจได้มีประสิทธิภาพดีขึ้น


หากคุณคือนักการตลาดมือใหม่! IDM Council ได้เปิดคอร์สเรียนการตลาดดิจิทัลที่สอนโดยอาจารย์ผู้สอนที่ได้การรรับรองมาตรฐานความรู้จากสถาบันระดับโลก ซึ่งปัจจุบันทำงานทางด้าน Online Marketing มีประสบการณ์ตรง พร้อมที่จะถ่ายทอดให้ผู้เข้าอบรมอย่างเต็มที่ในคอร์สเรียน Advanced Digital Marketing Certificate สุด Exclusive จะเป็นการอัพความรู้ทางด้านดิจิทัลแบบเข้มข้น กระชับ ทันสมัย และสามารถนําไปใช้งานได้จริง คอร์สเรียนนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทำให้คุณมีความรู้ที่เหนือคู่แข่งและรู้เท่าทันต่อความต้องการของผู้บริโภค

สรุป

Google Data Studio เป็นเครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล Insights ซึ่งทำการแปลงข้อมูลเป็นรายงานและ Dashboard ที่ให้ข้อมูลซึ่งปรับแต่งได้ เหมาะสำหรับนักการตลาด นักวิเคราะห์ข้อมูลและนักธุรกิจ ที่ต้องการนำข้อมูลมาใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ ส่งผลให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ