การตลาดออนไลน์ ไม่ใช่แค่ยิง Ads เป็น
การตลาดออนไลน์ ไม่ใช่แค่ยิง Ads เป็น

การตลาดออนไลน์ ไม่ใช่แค่การยิง Ads ทำโฆษณา

การตลาดออนไลน์ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน เพราะเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายและสร้างความสนใจในสินค้าหรือบริการของธุรกิจต่าง ๆ ได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม การตลาดออนไลน์ไม่ได้หมายถึงแค่การยิงโฆษณา (Ads) ในสื่อต่าง ๆ แต่เพียงเท่านั้น ยังมีกลยุทธ์การตลาดอีกหลายด้านและต้องสร้างเนื้อหาหรือเขียนคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและต้องให้ความสำคัญเพื่อสร้างและสรรค์ประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้และลูกค้าของเรา ดังนั้นบทความนี้จะทำให้คุณได้รู้ว่าทำไมการตลาดออนไลน์จึงสำคัญและช่องทางไหนบ้างที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ

การตลาดออนไลน์ ไม่ใช่แค่ยิง Ads เป็น

การตลาดออนไลน์หรือ Digital Marketing คือสิ่งสำคัญและเป็นที่ต้องการมากในปัจจุบัน หากมีความรู้ไม่มากพอหรืออัพเดทความรู้ไม่ให้เท่าทันจะทำให้ตกเทรนด์และทำให้คู่แข่งแซงหน้าคุณไปอีกก้าว หากต้องการอัพสกิลเพิ่มความรู้ IDM Council ขอแนะนำคอร์สเรียนการตลาดออนไลน์ที่สอนโดยอาจารย์ผู้ที่ได้การรับรองมาตรฐานความรู้จากสถาบันระดับโลก ซึ่งปัจจุบันทำงานทางด้าน Online Marketing มีประสบการณ์ตรง พร้อมที่จะถ่ายทอดให้ผู้เข้าอบรมอย่างเต็มที่ในคอร์สเรียน Advanced Digital Marketing Certificate สุด Exclusive จะเป็นการอัพความรู้ทางด้านดิจิทัลแบบเข้มข้น กระชับ ทันสมัย และสามารถนําไปใช้งานได้จริง คอร์สเรียนนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทำให้คุณมีความรู้ที่เหนือคู่แข่งและรู้เท่าทันต่อความต้องการของผู้บริโภค

การตลาดออนไลน์คืออะไร

การตลาดออนไลน์ ไม่ใช่แค่ยิง Ads เป็น

การทำตลาดออนไลน์ (Online Marketing) คือการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย อีเมล แคมเปญโฆษณาออนไลน์ เป็นต้น การทำตลาดออนไลน์ในปัจจุบันมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้น การทำตลาดออนไลน์จึงช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เหตุผลที่ต้องทำการตลาดออนไลน์

1. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวาง 
ในโลกออนไลน์เป็นโลกแห่งการสื่อสารที่ไร้พรมแดน ดังนั้น การทำตลาดออนไลน์จะช่วยให้สามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงลูกค้าได้เฉพาะกลุ่มที่ต้องการ หรือเป็นลูกค้าในกลุ่มเป้าหมาย เพื่อการกระจายสินค้าให้ตรงจุด หรือตรงต่อความต้องการของผู้บริโภค

2. สร้างภาพลักษณ์ที่ดี 
การทำตลาดออนไลน์เป็นช่องทางที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจได้ เนื่องจากธุรกิจสามารถนำเสนอข้อมูลและเนื้อหาที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. เพิ่มยอดขายและสร้างรายได้ 
การทำตลาดออนไลน์สามารถช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ เนื่องจากธุรกิจสามารถนำเสนอสินค้าและบริการได้อย่างตรงจุดและตรงต่อความต้องการของลูกค้า อีกทั้งยังสามารถกระตุ้นให้เกิดการซื้อได้ทันทีผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ

4. ประหยัดต้นทุน 
การทำตลาดออนไลน์สามารถช่วยประหยัดต้นทุนให้กับธุรกิจได้ เนื่องจากการทำตลาดออนไลน์มีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าการทำตลาดแบบดั้งเดิม เช่น การทำการตลาดผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ เป็นต้น

5. วัดผลได้ 
การทำตลาดออนไลน์สามารถวัดผลได้อย่างชัดเจน เนื่องจากธุรกิจสามารถติดตามผลลัพธ์ของการทำการตลาดออนไลน์ได้ผ่านเครื่องมือต่าง ๆ เช่น เครื่องมือวัดผลเว็บไซต์ (Web Analytics) เครื่องมือวัดผลโซเชียลมีเดีย (Social Media Analytics) เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงกลยุทธ์การทำตลาดออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

8 ช่องทางทำการตลาดออนไลน์ 

การตลาดออนไลน์ ไม่ใช่แค่ยิง Ads เป็น

1. SEO (Search Engine Optimization) 
เป็นช่องทางการตลาดออนไลน์ที่เน้นการปรับแต่งเว็บไซต์ให้เป็นไปตามหลักการของ Search Engine เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหา เมื่อผู้ใช้งานค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับการทำ SEO สามารถทำได้ทั้งบนเว็บไซต์และนอกเว็บไซต์ โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ มีประโยชน์ และตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน การทำ SEO เป็นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ธุรกิจต่าง ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากการทำ SEO เพื่อเพิ่มการมองเห็นของเว็บไซต์ เพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ และสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ได้


2. Google Ads 
เป็นบริการโฆษณาของ Google ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถแสดงโฆษณาของตนบนหน้าผลการค้นหาของ Google และบนเว็บไซต์พันธมิตรของ Google การทำ Google Ads จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ


3. Social Media Marketing 
เป็นการทำการตลาดผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น Facebook , Twitter , Instagram , YouTube เป็นต้น การทำ Social Media Marketing จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวางและมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้


4. Content Marketing 
เป็นการสร้างและเผยแพร่เนื้อหาที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมาย การทำ Content Marketing จะช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างการรับรู้และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้


5. Video Marketing 
เป็นการทำการตลาดผ่านวิดีโอ การทำ Video Marketing จะช่วยดึงดูดผู้ชมได้ง่ายและกระตุ้นทำให้เกิดการคล้อยตามหรือเกิดการสั่งซื้อสินค้าหรือบริการได้ง่าย และช่วยให้ธุรกิจสามารถนำเสนอข้อมูลและเนื้อหาได้อย่างน่าสนใจและมีประสิทธิภาพ 


6. Email Marketing 
เป็นการส่งอีเมลประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการไปยังลูกค้าเป้าหมาย การทำ Email Marketing จะช่วยให้ธุรกิจสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น


7. Influencer Marketing 
การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์เป็นกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพที่สามารถช่วยธุรกิจต่าง ๆ ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ สร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ และกระตุ้นให้เกิดการซื้อซึ่งมีประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะและสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ เมื่อเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสมสำหรับแคมเปญ สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ขนาดผู้ติดตาม ประเภทของเนื้อหาที่สร้าง และภาพลักษณ์ขององค์กร 


8. Affiliate Marketing 
เป็นการทำการตลาดแบบพันธมิตร โดยธุรกิจจะจ่ายค่าตอบแทนให้กับพันธมิตรเมื่อพันธมิตรสามารถขายสินค้าหรือบริการของธุรกิจได้ การทำ Affiliate Marketing จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวาง

ปัจจัยการเลือกช่องทางการทำตลาดออนไลน์

การตลาดออนไลน์ ไม่ใช่แค่ยิง Ads เป็น

ประเภทของธุรกิจ 
ธุรกิจประเภทต่างๆ มีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ดังนั้น ช่องทางการทำการตลาดออนไลน์ที่เหมาะสมกับธุรกิจแต่ละประเภทจึงแตกต่างกันไปด้วย เช่น ธุรกิจ B2B (Business to Business) เน้นการทำการตลาดผ่านเว็บไซต์และอีเมลเป็นหลัก ในขณะที่ธุรกิจ B2C (Business to Consumer) เน้นการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียและวิดีโอเป็นหลัก


เป้าหมายของการทำการตลาดออนไลน์ 
ธุรกิจมีเป้าหมายในการทำการตลาดออนไลน์ที่แตกต่างกัน เช่น ต้องการเพิ่มยอดขาย ต้องการสร้างการรับรู้ หรือต้องการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ดังนั้น ช่องทางการทำการตลาดออนไลน์ที่เหมาะสมจึงแตกต่างกันไปด้วย เช่น หากธุรกิจต้องการเพิ่มยอดขาย การทำ Google Ads หรือ Social Media Marketing อาจเป็นช่องทางที่เหมาะสมกว่าการทำ Content Marketing


งบประมาณในการทำการตลาดออนไลน์ 
ธุรกิจมีงบประมาณในการทำการตลาดออนไลน์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นช่องทางการทำการตลาดออนไลน์ที่เหมาะสมจึงแตกต่างกันไปด้วย เช่น หากธุรกิจมีงบประมาณจำกัด การทำ SEO หรือ Content Marketing อาจเป็นช่องทางที่เหมาะสมกว่าการทำ Google Ads หรือ Social Media Marketing

ตัวอย่างธุรกิจแต่ละประเภทในการทำตลาดออนไลน์

ตัวอย่างของช่องทางการทำการตลาดออนไลน์ที่เหมาะกับธุรกิจแต่ละประเภท ได้แก่

ธุรกิจ B2B

เว็บไซต์ 
ธุรกิจ B2B จำเป็นต้องมีเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและอัปเดตข้อมูลอยู่เสมอ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการของธุรกิจได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

อีเมล  
ธุรกิจ B2B สามารถส่งอีเมลประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการไปยังลูกค้าเป้าหมายได้

LinkedIn  
LinkedIn เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสำหรับธุรกิจ B2B ธุรกิจสามารถใช้ LinkedIn เพื่อสร้างเครือข่ายและติดต่อสื่อสารกับลูกค้าเป้าหมายได้

ธุรกิจ B2C

โซเชียลมีเดีย 
โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการทำการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจ B2C ธุรกิจสามารถนำเสนอข้อมูลและเนื้อหาที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook, Twitter, Instagram, YouTube เป็นต้น

วิดีโอ 
วิดีโอเป็นรูปแบบเนื้อหาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ธุรกิจสามารถผลิตวิดีโอเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการของคุณได้

Email Marketing  
ธุรกิจสามารถส่งอีเมลประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการไปยังลูกค้าเป้าหมายได้

สรุป

การตลาดออนไลน์ไม่เพียงแค่การยิงโฆษณา  (Ads) เพื่อเพิ่มยอดขายเท่านั้น แต่ต้องมีกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่งและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ผ่านทางการสร้างเนื้อหามีคุณค่า การทำเว็บไซต์ให้ใช้งานได้ง่าย การใช้โซเชียลมีเดียในการสื่อสาร การให้บริการหลังการขายที่ดี และการใช้ SEO อย่างเหมาะสม เพื่อสร้างฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและยั่งยืนต่อการแข่งขันในตลาดออนไลน์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว