3 ทริคเด็ด! เขียนแคปชั่นคอนเทนต์ยังไง ให้จูงใจผู้อ่าน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเขียนแคปชั่นบนโลกโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน มีผลต่อผู้บริโภคและสร้าง Engagement มากกว่าที่คุณคิด และยิ่งคอนเทนต์ดีแคปชั่นปัง มีโอกาสทำให้คอนเทนต์นั้นเป็นไวรัลและเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง ซึ่งนั้นส่งผลต่อยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นการเขียนแคปชั่นนั้นก็สำคัญไม่แพ้กับการทำคอนเทนต์ที่ดีเช่นเดียวกัน
บทความนี้จะมาพูดถึงการเขียนแคปชั่นอย่างไรให้จูงใจผู้อ่าน คอนเทนต์หมายถึงอะไร SEO Content คืออะไร หลายคนมักมีข้อสงสัยระหว่างคอนเทนต์และ SEO Content แตกต่างกันอย่างไร ซึ่งคุณจะทราบหัวข้อนี้ทั้งหมดเมื่อคุณอ่านบทความนี้จบ เริ่มไปเรียนรู้ด้วยกันเลย
Content คืออะไร ?
คอนเทนต์ (Content) หมายถึงข้อมูลหรือเนื้อหาที่ถูกสร้างขึ้นมาหรือแบ่งปันผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งมีทั้งการกระจายผ่านช่องทางออนไลน์หรือออฟไลน์ เนื้อหาคอนเทนต์สามารถเป็นข้อความเขียน, รูปภาพ, วิดีโอ, เสียง, Story, บทความ, ข่าว, บทวิจารณ์, หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ และอื่นๆ อีกมากมาย
คอนเทนต์เป็นสิ่งที่สำคัญในโลกออนไลน์ เนื่องจากคอนเทนต์มีบทบาทสำคัญในการสร้างความสนใจและความนิยมให้กับแบรนด์ของคุณได้ ในปัจจุบันการสร้างและการทำคอนเทนต์เป็นสิ่งสำคัญในกลยุทธ์การตลาดออนไลน์และการสร้างการติดตามจากผู้ใช้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ด้วยวิธีการสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจและมีคุณค่าสามารถทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักและพูดถึงในวงกว้างได้
ความแตกต่างระหว่าง Content กับ SEO Content
คอนเทนต์ หมายถึง ข้อมูลหรือเนื้อหาที่สร้างขึ้นเพื่อเสริมความรู้ บันเทิง หรือการสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ สื่อสังคม หรืออื่น ๆ โดยทั่วไปแล้ว คอนเทนต์มุ่งเน้นให้เนื้อหามีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อผู้อ่านหรือผู้บริโภค โดยไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิค SEO
SEO Content คือ คอนเทนต์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยการใช้เทคนิคและกลยุทธ์ SEO เพื่อเพิ่มโอกาสให้คอนเทนต์นั้นติดอยู่ในหน้าแรกของผลการค้นหาในเครื่องมือค้นหาออนไลน์ เช่น Google และ Bing โดย SEO คอนเทนต์ มักมีการใช้คำสำคัญหรือคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องและเขียนข้อความให้เนื้อหามีคุณค่าและสอดคล้องกับความต้องการของผู้ค้นหา
ดังนั้นความแตกต่างหลักคือ SEO คอนเทต์ มุ่งเน้นการใช้เทคนิค SEO เพื่อเพิ่มโอกาสให้คอนเทนต์นั้นติดอยู่ในหน้าแรกของผลการค้นหา ในขณะที่ คอนเทนต์ มุ่งเน้นการสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและประโยชน์โดยไม่จำเป็นต้องยึดตามกฎและกลยุทธ์ SEO แต่ก็ยังสามารถถูกค้นหาและเข้าถึงได้ผ่านเครื่องมือค้นหา แต่อาจจะไม่มีโอกาสสูงเท่ากับ SEO คอนเทนต์ ที่ถูกเรียบเรียงขึ้นมาเพื่อเป้าหมาย SEO อย่างชัดเจน
การเขียนแคปชั่นที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร ?
1. Relevant
แคปชั่นต้องระบุรายละเอียดที่ให้ความหมายและความตั้งใจของโพสต์ และสิ่งสำคัญที่สุดคือคำพูดหรือการเขียนแคปชั่นต้องโดนใจผู้ชม
2. มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
แคปชั่นที่เขียนไปจะต้องแสดงความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์คุณได้อย่างชัดเจน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องดึงดูดผู้ชมได้เช่นเดียวกัน อีกหนึ่งวิธีที่คนส่วนใหญ่ใช้และสร้าง Engagement ได้ดี คือการจินตนาการตัวเองจากมุมมองของผู้ชมหรือผู้บริโภค
3. มีคุณค่า
แคปชั่นที่ดีควรให้คุณค่าในทางใดทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล ให้คำแนะนำเชิงปฏิบัติ หรือเพื่อความบันเทิง ควรนำเสนอสิ่งที่สดใหม่และตามเทรนด์อยู่ตลอดเวลา
4. สร้างแรงบันดาลใจ
การเขียนแคปชั่นที่สร้างแรงบันดาลใจก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดึงดูดให้ผู้ชมสามารถ ติดตาม ถูกใจ แสดงความคิดเห็น หรือคลิกลิงก์แลนดิ้งเพจของคุณได้ดี
วัตถุประสงค์การเขียนแคปชั่น
ในการทำคอนเทนต์จะมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป แต่การเขียนแคปชั่นจะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของคอนเทนต์นั้นๆ ว่าคอนเทนต์ทำมาเพื่ออะไร ต้องการจะสื่อสารอะไรให้กับผู้อ่าน ทำให้ผู้อ่านเข้าใจในสิ่งที่คุณจะสื่อสารออกมามากยิ่งขึ้น หากว่าคอนเทนต์นั้นดีหรือเป็นไวรัลก็จะทำให้คุณมีผู้ติดตาม การแสดงความคิดเห็น หรือถูกแชร์เพิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นการเขียนแคปชั่นมีวัตถุประสงค์หลักๆ คือการสื่อสารคอนเทนต์ให้กับผู้อ่านได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น
ข้อควรระวังในการเขียนแคปชั่น
1. ตรวจสอบความถูกต้อง
อย่าเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือเท็จในแคปชั่นของคุณ เนื้อหาที่ไม่ถูกต้องอาจสร้างความสับสนและเสียความน่าเชื่อถือของแบรนด์คุณไปได้ ซึ่งมีผลต่อการทำการตลาดในอนาคตได้ เพราะฉะนั้นก่อนที่คุณจะเขียนแคปชั่นและโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ควรตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา และการสะกดคำที่ถูกต้อง
2. การใช้ภาษา
ควรใช้ภาษาที่เหมาะสมกับคอนเทนต์นั้นๆ และห้ามใช้ภาษาที่หยาบคายหรือไม่เหมาะสมในการเขียนแคปชั่น เพราะจะผิดกฎระเบียบของแพลตฟอร์มสื่อสังคมและในอนาคตคุณอาจจะโดนปิดกั้นเนื้อหาอีกด้วย
3. การระมัดระวังในเรื่องของภาพ
หากคุณแชร์รูปภาพหรือวิดีโอที่มีผู้อื่นอยู่ในนั้น ให้ระมัดระวังในเรื่องของความเป็นส่วนตัวและขออนุญาตจากคนอื่นก่อนการแชร์
4. หลีกเลี่ยงการก่อกวนและแพร่กระจายข้อมูลที่เสี่ยง
อย่าใช้แคปชั่นเพื่อก่อกวนผู้อื่นหรือแพร่กระจายข้อมูลที่ไม่เหมาะสมหรือเสี่ยงต่อผู้อื่น ระวังการใช้คำหรือข้อความที่ไม่เหมาะสม เพื่อภาพลักษณ์ของแบรนด์และเพจของคุณ
5. การเลือกใช้แท็กและแฮชแท็กที่เหมาะสม
การใช้แท็กและแฮชแท็กที่เหมาะสม จะช่วยให้เนื้อหาของคุณถูกค้นหาและเพิ่มความน่าเชื่อถือได้มากขึ้น ดังนั้นคุณไม่ควรใช้แท็กหรือแฮชแท็กที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา เพราะจะเป็นการลดความน่าเชื่อถือของแบรนด์
6. ความชัดเจนในการสื่อสาร
การเขียนแคปชั่นให้ชัดเจนเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ เพราะหากคุณเขียนแคปชั่นที่มีความคลุมเครือในโพสต์ จะทำให้ผู้อ่านไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณจะสื่อสารและคุณอาจจะพลาดโอกาสในการปิดการขายของผู้อ่านคนนั้นไปเลยก็ได้
3 ทริคเด็ด! เขียนแคปชั่นให้โดนใจ
1. สร้าง Hook ให้อยู่หมัด
อย่างแรกที่คุณควรทำคือการใช้คำที่สามารถทำให้ผู้ชมหยุดอ่านคอนเทนต์ ณ ตอนนั้นให้ได้ ซึ่งการสร้าง Hook ตั้งแต่บรรทัดแรกจะทำให้คุณได้เปรียบและสร้างโอกาสให้ผู้ชมหยุดอ่านและอ่านสิ่งที่คุณโพสต์จนจบ นั่นหมายความถ้าคุณขายสินค้าแล้วสร้าง Hook ที่โดนใจแล้วให้ผู้ชมอ่านจนบรรทัดสุดท้ายได้ คุณก็สิทธิ์ปิดการขายไปในตัวได้เช่นกัน
2 เขียนสิ่งที่ลูกค้าอยากอ่านไม่ใช่สิ่งที่เราอยากบอก
หลายๆแบรนด์มักบอกเล่าเรื่องราวในสิ่งที่ตัวแบรนด์อยากจะนำเสนอมากกว่าสิ่งที่ลูกค้าอยากอ่าน ซึ่งจุดบอดเล็กๆตรงนี้ ทำให้หลายแบรนด์พลาดในการปิดการขายและเพิ่มยอดขาย การแก้ไขที่ง่ายและสามารถทำได้เลย คือการที่คุณเข้าใจและนึกถึงใจผู้อ่าน ว่าผู้อ่านต้องการอยากจะเสพเนื้อหาในรูปแบบใด อยากดูคอนเทนต์ที่เป็นไปในทิศทางไหน คุณจะต้องทราบและจับจุดผู้อ่านให้ได้ ถ้าคุณจับจุดได้แล้ว คุณจะมีโอกาสปิดการขายได้ง่ายมากขึ้น
3. ใช้คำกระตุ้น
ทุกคนรู้ดีว่าคำกระตุ้นเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจของผู้บริโภค ซึ่งสามารถใช้คำกระตุ้นการตัดสินใจได้หลากหลายวิธี เพื่อให้ได้รับยอดไลก์และสร้าง Engagement ที่เพิ่มมากขึ้น สิ่งนี้ใช้ได้ดีกับการเขียนแคปชั่นบนโซเชียลมีเดีย ทุกโพสต์ทุกคอนเทนต์จะมีจุดประสงค์ในตัวของมันอยู่แล้ว คุณจะต้องใช้คำที่กระตุ้นการตัดสินใจเพื่อให้ปิดการขายและสร้างยอดขายให้ได้
