CRM คืออะไร? ทำไมธุรกิจถึงต้องการ

ในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงอย่างทุกวันนี้ การเข้าถึงและเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จ นั่นเป็นเหตุผลที่ทุกธุรกิจควรมี Martech Tool หรือ เทคโนโลยีการตลาด ซึ่งในบล็อกนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักหนึ่งในเครื่องมือการตลาดที่มีประสิทธิภาพด้าน Data Management นั่นก็คือ CRM (Customer Relationship Management) หรือ ระบบจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า เป็นหนึ่งในเครื่องมือ Marketing Automation ที่ธุรกิจทุกประเภทไม่ควรมองข้าม! เกริ่นมาถึงตรงนี้หลายคนกำลังมีข้อสงสัยว่ามันคืออะไร มีประโยชน์อย่างไรและเหมาะกับธุรกิจของเราหรือไม่ บล็อกนี้มีคำตอบ!

CRM คืออะไร

CRM (Customer Relationship Management) คือระบบจัดการความสัมพันธ์ลูกค้าที่ช่วยธุรกิจพัฒนาและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า มันทำงานโดยรวบรวม จัดเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้า เช่น ประวัติการซื้อ รูปแบบพฤติกรรม และการปรับตั้งค่าส่วนบุคคล เป็นต้น ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะช่วยให้ทีมขายและทีมการตลาดสามารถปรับกลยุทธ์การทำงานให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นและสร้าง Brand Loyalty ได้ในระยะยาว 


CRM มีกี่ประเภท

ธุรกิจสามารถเลือกใช้ตามความต้องการและเป้าหมายขององค์กร โดยหลัก ๆ แล้วแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ Operational , Analytical , Collaborative และ Strategic แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. Operational 

Operational เน้นการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า รวมถึงกระบวนการด้านการขาย การตลาด และการบริการลูกค้าซึ่งจะประกอบไปด้วย ดังนี้
Sales Automation 
ช่วยอัตโนมัติการทำงานของทีมขาย เช่น การติดตามลูกค้า การจัดการกับลีด (leads) และการปิดการขาย
Marketing Automation 
ช่วยจัดการแคมเปญการตลาด ส่งอีเมลโปรโมชัน และติดตามผลลัพธ์ของการตลาด
Service Automation
ช่วยในการบริหารจัดการงานบริการลูกค้า เช่น การติดตามการร้องเรียน การตอบคำถาม และการจัดการกับปัญหาของลูกค้า

2. Analytical

Analytical เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อใช้ในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ โดยใช้เครื่องมือและเทคนิคในการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น การทำเหมืองข้อมูล (Data Mining) และการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอย่างมหาศาล (Big Data) ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า ระบุโอกาสทางการตลาดและการขายใหม่ ๆ วัดผลและประเมินประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาด อีกทั้งยังคาดการณ์ยอดขายและแนวโน้มของตลาดได้อีกด้วย

3. Collaborative

Collaborative เน้นการสื่อสารและการทำงานร่วมกันระหว่างทีมงานในองค์กร และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า โดยการเชื่อมโยงข้อมูลจากทุกช่องทาง (Omnichannel) และการประสานงานระหว่างแผนกต่าง ๆ เช่น การขาย การตลาด และการบริการลูกค้า เพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าโดยการให้บริการที่เป็นมิตรและตอบสนองความต้องการอย่างรวดเร็ว และลดการทำงานซ้ำซ้อน

4. Strategic

Strategic เน้นการวางแผนและการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว โดยใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้า ซึ่งรวมถึงการสร้างกลยุทธ์ทางการตลาด การจัดการประสบการณ์ลูกค้า และการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น


CRM มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร

1. ติดตามและจัดการข้อมูล

ธุรกิจสามารถติดตามและจัดการข้อมูลลูกค้าได้อย่างมีระบบ ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสามารถติดตามประวัติการสื่อสารและการซื้อสินค้าของลูกค้า ทำให้การให้บริการมีความต่อเนื่องและเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น

2. เพิ่มยอดขาย

ทีมขายสามารถติดตามลูกค้าที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าหรือบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสามารถจัดการกับลีด (leads) และโอกาสในการขายได้อย่างมีระบบ ลดการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ

3. เพิ่มประสิทธิภาพในการตลาด

นักการตลาดสามารถใช้ข้อมูลจากในการวิเคราะห์และเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า ทำให้สามารถสร้างแคมเปญการตลาดที่ตรงเป้าหมายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดได้อย่างทันที

4. การวิเคราะห์และรายงาน

ธุรกิจสามารถติดตามและประเมินผลการทำงานของทีมขายและการตลาดได้อย่างละเอียด ซึ่งสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการวางแผนและตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. เพิ่มความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้า

ธุรกิจสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและยั่งยืนกับลูกค้า ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเขาคือคนพิเศษและได้รับการดูแลเป็นอย่างดี สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาลูกค้าในระยะยาว


CRM เหมาะกับธุรกิจประเภทไหนบ้าง

ระบบจัดการความสัมพันธ์ของลูกค้าเป็นระบบที่มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับใช้กับธุรกิจหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง หรือขนาดเล็ก มันสามารถเพิ่มมูลค่าและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับธุรกิจของคุณได้ ซึ่งเหมาะกับธุรกิจประเภทไหนบ้างเราไปอ่านกันเลย

1. ธุรกิจค้าปลีก (Retail)

การจัดการลูกค้า : ช่วยในการติดตามข้อมูลลูกค้า ประวัติการซื้อ และพฤติกรรมการช็อปปิ้ง เพื่อเสนอสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า
แคมเปญการตลาด : สร้างแคมเปญโปรโมชั่นที่ตรงเป้าหมายและส่งเสริมการขายผ่านช่องทางหรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ

2. ธุรกิจบริการ (Service Industry)

การบริหารจัดการลูกค้า : ติดตามการให้บริการลูกค้า จัดการข้อร้องเรียน และปรับปรุงคุณภาพการบริการ
การรักษาลูกค้า : สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเพื่อเพิ่มความพึงพอใจและรักษาลูกค้าในระยะยาว

3. ธุรกิจการขายของออนไลน์ (Sales)

การจัดการลีด (Leads) : ติดตามและจัดการลีด (ลูกค้าที่สนใจ) และกระบวนการขายทั้งหมด ตั้งแต่การติดตามลูกค้าใหม่จนถึงการปิดการขาย
การวิเคราะห์ยอดขาย : วิเคราะห์ข้อมูลการขายเพื่อระบุแนวโน้มและโอกาสในการขาย

4. ธุรกิจการตลาด (Marketing)

การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า : ใช้ข้อมูลลูกค้าในการวิเคราะห์และสร้างแคมเปญการตลาดที่ตรงเป้าหมาย
การติดตามผล : ติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญการตลาดและปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดตามข้อมูลที่ได้รับ

5. ธุรกิจการเงินและธนาคาร (Financial Services)

การติดตามลูกค้า : ติดตามและจัดการข้อมูลลูกค้าเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสมและตรงกลุ่มกับลูกค้า
การบริการลูกค้า : ปรับปรุงการให้บริการลูกค้าด้วยข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้อง

6. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate)

การจัดการข้อมูลลูกค้า : ติดตามและจัดการข้อมูลลูกค้า รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่สนใจ
การติดตามการขาย : ติดตามกระบวนการขายอสังหาริมทรัพย์และการติดตามลูกค้า

7. ธุรกิจ B2B (Business-to-Business)

การจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าองค์กร : จัดการข้อมูลลูกค้าองค์กร ประวัติการซื้อ และพฤติกรรมการซื้อ
การติดตามการขายและบริการ : ติดตามกระบวนการขายและบริการหลังการขายให้กับลูกค้าองค์กร

หากอยากรู้เรื่องการตลาดออนไลน์ IDM Council เปิดคอร์สเรียน Advanced Digital Marketing Certificate เพื่อก้าวสู่การเป็นนักการตลาดมืออาชีพด้วยหลักสูตรที่ได้การรรับรองมาตรฐานจากสถาบันระดับโลก เหมาะสำหรับนักการตลาดหรือผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสายงาน ไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้ด้วยตนเอง อัพเดทเทรนด์การตลาดใหม่ล่าสุดได้แล้ววันนี้!

คอร์สเรียน Strategic Digital Marketing and Business Transformation การวางกลยุทธ์การตลาดที่ถูกต้องและการบริหารองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติบโตและมีมุมมองเดียวกันกับเจ้าของธุรกิจ เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองและมีประสบการณ์ตรง เนื้อหาเข้มข้น กระชับ ทันสมัย

สรุป

CRM คือระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ที่ช่วยธุรกิจพัฒนาและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขาย การตลาด บริการลูกค้า และสร้างความภักดีต่อธุรกิจได้ในระยะยาว