Effective Marketing Strategy for Businesses
เวลาเรียน
ระยะเวลารวม 12 ชั่วโมง / 2 สัปดาห์
เปิดรับสมัครแล้ว
เริ่มเรียน 16 พฤศจิกายน 2567
รายละเอียดหลักสูตร
คำอธิบายหลักสูตร
หลักสูตร “Effective Marketing Strategy for Businesses” เน้นการเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการวางกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตและพัฒนาต่อไปอย่างยั่งยืน ทำให้ผู้เรียนได้รับความรู้และทักษะที่จำเป็นในการสร้างแผนกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมกับธุรกิจของตน เพื่อให้สามารถสร้างผลการตลาดที่เชื่อถือได้และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจของตนในระยะยาว
วัตถุประสงค์
1. สอนเทคนิคและกลยุทธ์ที่ทันสมัยและเหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและสภาวะธุรกิจ.
2. ใช้ Generative AI and ChatGPT for Data Analytics เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ.
3. ออกแบบกลยุทธ์การตลาดที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสื่อสังคมออนไลน์.
4. พัฒนากลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายและความต้องการของธุรกิจ.
5. สร้างผลการตลาดที่เชื่อถือได้และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจในระยะยาว.
หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับ
· ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ
· นักการตลาด นักสื่อสารการตลาด
· ผู้ที่สนใจพัฒนาทักษะด้านการตลาด
การรับวุฒิบัตร
หลังจากจบการอบรมตามหลักสูตร IDM Council ขอมอบประกาศนียบัตรระดับนานาชาติที่ ได้รับการยอมรับจากหลายสถาบันเช่น European Qualifications Framework, Scottish Qualification Authority, International Board of Digital Marketing และอื่นๆ อีกมากมาย
รูปแบบการเรียนการสอน
- จัดการเรียนการสอนในระบบ Hybrid ทั้งเรียนแบบ Offline ที่อาคารวรรณสรณ์ (BTS พญาไท) พร้อมเรียน Online แบบ Live ผ่านระบบ
- อาจารย์ผู้สอนและเนื้อหาการสอนเป็นภาษาไทย (เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถสื่อสารและเข้าใจภาษาไทย)
สำหรับนิติบุคคลที่ซื้อคอร์สเรียนที่ IDMCOUNCIL สามารถนำค่าใช้จ่ายดังกล่าวไปลดหย่อนภาษีได้ถึง 200%
ตารางเรียน
Generative AI and ChatGPT for Data Analytics
สัปดาห์ที่ 1 | 09.00 – 12.00 น.
คอร์สเรียนการนำเสนอแผนภาพข้อมูล หลักสูตรนี้เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลผ่านการสำรวจ จัดระเบียบ และแปลงข้อมูลที่มี ให้พร้อมต่อการหาความเข้าใจเชิงลึก (insight) ที่ซ่อนอยู่ และนำเสนอข้อมูลออกมาเป็นภาพเพื่อช่วยในการตัดสินใจ ใช้งาน Generative AI เพื่อยกระดับงานด้าน Data เข้าใจกระบวนการทำงานของ Generative AI ไม่เพียงแต่ท่องจำคำสั่ง
เนื้อหาหลักสูตร
1. Intro to Generative AI
เรียนรู้หลักการทำงานของ Large Language Models (LLMs) และ Generative AI พร้อมฟีเจอร์เครื่องมือ ChatGPT ก่อนเริ่มใช้งาน
– หลักการทำงาน Generative AI
– ข้อจำกัดของการใช้ Generative AI
– เปรียบเทียบเครื่องมือ Generative AI ต่างๆ เช่น Bard, Chat GPT ฯลฯ
2. Effective Prompt Design
– ฝึกเขียน Prompt ผ่านเทคนิคการเขียนที่มีประสิทธิภาพสูง และได้รับการรับรองจากงานวิจัย เพื่อให้ได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการมากที่สุด
– Zero-/ Few-Shot Prompting
– Chain-of-Thought (CoT) Prompting
– Zero-Shot Chain-of-Thought (CoT) Prompting
3. Use Cases ในห้องเรียน พร้อมให้นำไปใช้งานได้ทันที เจาะลึกการใช้งาน AI และ ChatGPT ในงาน Data Analytics เพื่อยก Efficiency ให้สามารถนำ Data ไปวิเคราะห์ข้อมูลผ่านการสำรวจจ จัดระเบียบ และแปลงข้อมูลที่มี ให้พร้อมต่อการหาความเข้าใจเชิงลึก (insight) ที่ซ่อนอยู่ และนำเสนอข้อมูลออกมาเป็นภาพเพื่อช่วยในการตัดสินใจ
4. Using Generative AI for Data Analytics Process
– Understanding Data Workflow: เข้าใจกระบวนการการทำงานของ Data Analyst เพื่อปรับพื้นฐานให้ผู้เรียนทุกคนเห็นภาพตรงกัน
– Using Generative AI for Data Analytics Process: เรียนรู้การใช้งาน Generative AI เพื่อทำงาน Data Analytics ให้ล้อตามกระบวนการ Data Workflow ตั้งแต่ต้นจนจบ เช่น Dashboard Design , Web Scraping , Coding for Data Analytics , Data Transformation , Data Storytelling
Social Medai Strategy for Business Performance
สัปดาห์ที่ 1 | 13.00 – 16.00 น.
คอร์สเรียนกลยุทธ์โซเชียลมีเดียเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ หลักสูตรนี้เน้นการวางกลยุทธ์การตลาด ให้ผู้เรียนเข้าใจ Social Media เพื่อเข้าใจเรื่อง Social Media Strategy รวมทั้งกลยุทธ์ทางการตลาด และการสร้างคอนเทนต์ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและกลยุทธ์ของแบรนด์
เนื้อหาหลักสูตร
1. Social Media Marketing Strategy Social Media ที่นำมาพัฒนา Social Media Marketing Strategy องค์กรควรเลือก Social Media ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและสอดคล้องกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการทำการตลาด
2. Creating Engaging Content for Target Audience ทำความเข้าใจถึงความสำคัญในการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและโดนใจกลุ่มเป้าหมาย
– ดึงดูดความสนใจและสร้างความมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย เนื้อหาที่ดีจะช่วยดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายและกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมกับเนื้อหา เช่น การกดไลค์ กดแชร์ แสดงความคิดเห็น หรือการสมัครรับข้อมูล เป็นต้น
– สร้างการรับรู้และสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ เนื้อหาที่ดีจะช่วยสร้างการรับรู้และสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ โดยเนื้อหาที่ดีควรมีความน่าเชื่อถือ สร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมาย
– กระตุ้นให้เกิดการซื้อ เนื้อหาที่ดีสามารถกระตุ้นให้เกิดการซื้อได้ โดยเนื้อหาที่ดีควรนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการอย่างน่าสนใจและตรงประเด็น
3. Consumer Behavior การทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคและผลกระทบที่มีต่อกลยุทธ์ พฤติกรรมของผู้บริโภคสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามปัจจัยต่างๆ เช่น ปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยสังคม ปัจจัยวัฒนธรรม ปัจจัยจิตวิทยา และปัจจัยสถานการณ์ เป็นต้น
4. Aligning Social Media Efforts with Overall Business Goals and Objectives การพัฒนาความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับการสอดคล้องกันของ Social Media และความผสมผสานเข้ากับช่องทางการตลาดและแคมเปญอื่นๆ
5. Analyzing Social Media Competition วิธีการวิเคราะห์การแข่งขันบน Social Media และการตรวจสอบ Social Media บนสถานะปัจจุบัน
6. Social Media Marketing Customer Experience บน Social Media
– การสร้างประสบการณ์ที่โดดเด่น
– การวัดและปรับปรุง Customer Experience
Design a Marketing Strategy
สัปดาห์ที่ 2 | 09.00 – 12.00 น.
คอร์สเรียนการออกแบบกลบุทธ์ทางการตลาด หลักสูตรนี้เน้นกลยุทธ์การออกแบบและความได้เปรียบทางการตลาดในการแข่งขันทางธุรกิจ การมีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีคุณภาพอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ผู้คนสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้สะดวกขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีกลยุทธ์ในการทำการตลาด พร้อมทั้งมีความสามารถในการปรับตัว และเข้าใจการส่งมอบสินค้าและบริการให้กับลูกค้าในยุค Customer-centric เพื่อให้สามารถตอบโจทย์และเอาชนะใจลูกค้า
เนื้อหาหลักสูตร
1. Marketing Theory Analysis เข้าใจ 5C ปัจจัยหลักที่มีผลทั้งต่อตลาด ธุรกิจ และลูกค้า ประกอบด้วย Customer (ลูกค้า) , Company (บริษัท) , Competitor (คู่แข่ง) , Collaborator (ผู้ร่วมมือ) , Context (สภาพแวดล้อม)
2. Market and Customer Segmentation Analysis รู้จักลูกค้าให้ลึกซึ้งผ่าน Customer Journey ประกอบด้วย Awareness (การรับรู้) , Consideration (การพิจารณา) , Decision (การตัดสินใจซื้อ) , Use (การใช้งาน) , Post-purchase (หลังการซื้อ)
3. Data Analysis for New Customer Discovery ไอเดียและวิธีในการมองหาตลาดและกลุ่มลูกค้าใหม่ ผ่านผลลัพธ์ที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูล
– วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ เช่น ข้อมูลการขาย ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลพฤติกรรมการซื้อ ข้อมูลโซเชียลมีเดีย ข้อมูลประชากรศาสตร์ ข้อมูลเศรษฐกิจ เป็นต้น จะช่วยให้ธุรกิจสามารถมองเห็นแนวโน้มของตลาดและพฤติกรรมของลูกค้า เช่น ตลาดที่กำลังเติบโต ตลาดที่กำลังเปลี่ยนแปลง ความต้องการใหม่ๆ ของผู้บริโภค เป็นต้น
– วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ เช่น การสัมภาษณ์ลูกค้า การสำรวจความคิดเห็น การวิจัยเชิงลึก เป็นต้น จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจความต้องการและประสบการณ์ของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง เช่น ปัญหาที่ลูกค้ากำลังเผชิญ ความต้องการที่ลูกค้ายังไม่ได้รับ เป็นต้น
– ใช้เครื่องมือทางสถิติ เช่น การวิเคราะห์กลุ่มลูกค้า (segmentation) การวิเคราะห์แนวโน้ม (trend analysis) การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ (correlation analysis) เป็นต้น จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจตลาดและกลุ่มลูกค้าได้อย่างละเอียดยิ่งขึ้น เช่น แบ่งกลุ่มลูกค้าตามความต้องการ พฤติกรรม ลักษณะทางประชากรศาสตร์ เป็นต้น
– ใช้ความคิดสร้างสรรค์ การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยให้เรามองเห็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ สิ่งสำคัญคือต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาไอเดียใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดและกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุด
4. Marketing Objectives Setting กลยุทธ์หลักในการเลือกตลาด หรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่สามารถสร้างยอดขายได้อย่างแท้จริง
– เข้าใจความต้องการของลูกค้า ว่าลูกค้าต้องการอะไร มีปัญหาอะไร ต้องการแก้ปัญหาอย่างไร ความต้องการเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปตามลักษณะทางประชากรศาสตร์ พฤติกรรมการซื้อ ไลฟ์สไตล์ และปัจจัยอื่นๆ
– วิเคราะห์ศักยภาพของตลาด วิเคราะห์ศักยภาพของตลาดว่าตลาดมีขนาดใหญ่เพียงพอหรือไม่ มีการแข่งขันมากน้อยแค่ไหนหรือแนวโน้มของตลาดเป็นอย่างไร หากตลาดมีขนาดใหญ่และการแข่งขันไม่มากนัก ธุรกิจจะมีโอกาสในการขยายฐานลูกค้าและสร้างยอดขายได้มากขึ้น
– กำหนดเป้าหมาย เลือกตลาดหรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น ต้องการเพิ่มยอดขาย ต้องการขยายฐานลูกค้า ต้องการเจาะตลาดใหม่ เป็นต้น
5. Customer Relationship Management การสร้างสรรค์กลยุทธ์และวิธีการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และนำมาซึ่งยอดขายตัวอย่าง /กรณีศึกษา องค์กรที่ประสบความสำเร็จในการทำ CRM ในไทยและสากล
Strategy Development
สัปดาห์ที่ 1 | 13.00 – 16.00 น.
คอร์สเรียนการพัฒนาเชิงกลยุทธ์ หลักสูตรนี้เน้นกระบวนการกำหนดทิศทางและเป้าหมายขององค์กรในระยะยาว โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกองค์กร รวมไปถึงทรัพยากรและความสามารถขององค์กร การพัฒนากลยุทธ์ที่ดีจะช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จและมีความยั่งยืน มีความสำคัญต่อองค์กรทุกขนาดและทุกประเภทธุรกิจ เนื่องจากช่วยให้องค์กรสามารถกำหนดทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจน ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ และปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมได้อย่างรวดเร็ว
เนื้อหาหลักสูตร
1. BCG Matrix
– Stars : ธุรกิจที่มีส่วนแบ่งการตลาดและการเติบโตสูง ธุรกิจประเภทนี้มีกำไรสูง แต่ต้องการเงินลงทุนสูงเช่นกัน
– Cash Cows : ธุรกิจที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงและการเติบโตต่ำ ธุรกิจประเภทนี้มีกำไรสูงและสร้างกระแสเงินสดจำนวนมากให้กับบริษัท
– Question Marks : ธุรกิจที่มีส่วนแบ่งการตลาดต่ำและการเติบโตสูง ธุรกิจประเภทนี้มีความเสี่ยงสูง แต่มีโอกาสเติบโตสูงเช่นกัน
– Dogs : ธุรกิจที่มีส่วนแบ่งการตลาดต่ำและการเติบโตต่ำ ธุรกิจประเภทนี้มักมีกำไรต่ำหรือขาดทุน
2. Inside-Out vs. Outside-In Strategy
การมองแบบ Outside in และ Inside out แนวคิดที่ใช้ในการวิเคราะห์สถานการณ์หรือกำหนดกลยุทธ์ โดยทั้งสองแนวคิดมีมุมมองที่แตกต่างกัน
– Outside in : เป็นการมองจากภายนอกเข้ามาภายใน
– Inside out : เป็นการมองจากภายในออกไปภายนอก
3. Unique Value Proposition
การค้นหา Unique Value การค้นหาสิ่งที่ทำให้ธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นและแตกต่างไปจากคู่แข่ง
– Unique Value เชิงผลิตภัณฑ์ : สิ่งที่ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นและแตกต่างไปจากผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง เช่น คุณสมบัติพิเศษ นวัตกรรม คุณภาพ การออกแบบ เป็นต้น
– Unique Value เชิงบริการ : สิ่งที่ทำให้บริการมีความโดดเด่นและแตกต่างไปจากบริการของคู่แข่ง เช่น ความสะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่าย ใส่ใจลูกค้า เป็นต้น
4. Unique Selling Points (USP)
– วิธีการค้นหา Unique Selling Points (USP)
– การทดสอบและปรับแต่ง Unique Selling Points (USP)
– วิธีการสื่อสาร Unique Selling Points (USP)
– ข้อควรระวังในการสร้าง Unique Selling Points (USP)
5. Strategic Thinking vs. Strategic Planning
การแยกความแตกต่างระหว่าง Strategic Thinking และ Routine
เป็นสองแนวคิดของการบริหารและการจัดการองค์กร โดยทั้งสองแนวคิดมีความแตกต่างกัน องค์กรควรให้ความสำคัญกับทั้งสองแนวคิดควบคู่กัน โดยควรมีกระบวนการ Strategic Thinking เพื่อสร้างทิศทางและเป้าหมายระยะยาวให้กับองค์กร และควรมีกระบวนการ Routine เพื่อสร้างระบบและขั้นตอนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ
Testimonial
ลงทะเบียนปรึกษาการเรียนฟรี!!
กรอกฟอร์มด้านล่างเพื่อรับการติดต่อกลับรับรายละเอียดเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่
คอร์สเรียน Digital Marketing ที่น่าสนใจ
TIKTOK Ads Manager Course
คอร์สเรียน Digital Marketing ที่จะสอนให้ผู้เรียนสามารถบริหารจัดการภาพรวมการตลาดได้อย่างเชี่ยวชาญ พร้อมเทคนิคเคล็ดลับการตลาด ระดับ Specialist
Facebook Instagram Ads Manager
คอร์สสอนโฆษณาบน Facebook Ads และ IG Ads เพื่อเพิ่มฐานลูกใหม่ติดต่อลูกค้าเก่า พร้อมสอนวิเคราะห์และวัดผลโฆษณาเพื่อนำไปปรับปรุง
Customer Journey
เรียนการตลาดออนไลน์
เตรียมเป็นผู้ขายในโซเชียลมีเดีย กับคอร์ส Social Selling 5 ทักษะควรรู้สู่โลกดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง พร้อมใบประกาศนียบัตร