Marketing Mastery for Business Growth
เวลาเรียน
ระยะเวลารวม 18 ชั่วโมง / 3 สัปดาห์
เปิดรับสมัครแล้ว
เริ่มเรียน 26 ตุลาคม 2567
รายละเอียดหลักสูตร
คำอธิบายหลักสูตร
ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจทวีความรุนแรง การมีกลยุทธ์การตลาดที่เฉียบคมและเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งถือเป็นหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จ หลักสูตร “Marketing Mastery for Business Growth” คอร์สเรียน กลยุทธ์การตลาด มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะและความรู้ด้านการตลาดที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ และนักการตลาดยุคใหม่
วัตถุประสงค์
1. เรียนรู้หลักการและแนวคิดทางการตลาดที่สำคัญ เข้าใจกลยุทธ์การตลาดแบบดั้งเดิมและดิจิทัล วิเคราะห์สถานการณ์ตลาด แข่งขัน และลูกค้า
2. ค้นหาและวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย เข้าใจความต้องการ แรงจูงใจ และพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า เพื่อสร้างกลยุทธ์การตลาดที่ตรงใจ
3. พัฒนากลยุทธ์การตลาดที่ครอบคลุม ตั้งแต่การกำหนดเป้าหมาย การเลือกช่องทางการตลาด การออกแบบกลยุทธ์ราคา การสื่อสารการตลาด และการวัดผล
4. เรียนรู้วิธีสร้างและบริหารแบรนด์ที่แข็งแกร่ง สร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่น ดึงดูดลูกค้า และสร้างความภักดีต่อแบรนด์
5. เรียนรู้จากกรณีศึกษาจริง วิเคราะห์กลยุทธ์การตลาดของธุรกิจชั้นนำ นำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจของคุณ
หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับ
· ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ
· นักการตลาด นักสื่อสารการตลาด
· ผู้ที่สนใจพัฒนาทักษะด้านการตลาด
การรับวุฒิบัตร
หลังจากจบการอบรมตามหลักสูตร IDM Council ขอมอบประกาศนียบัตรระดับนานาชาติที่ ได้รับการยอมรับจากหลายสถาบันเช่น European Qualifications Framework, Scottish Qualification Authority, International Board of Digital Marketing และอื่นๆ อีกมากมาย
รูปแบบการเรียนการสอน
- จัดการเรียนการสอนในระบบ Hybrid ทั้งเรียนแบบ Offline ที่อาคารวรรณสรณ์ (BTS พญาไท) พร้อมเรียน Online แบบ Live ผ่านระบบ
- อาจารย์ผู้สอนและเนื้อหาการสอนเป็นภาษาไทย (เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถสื่อสารและเข้าใจภาษาไทย)
สำหรับนิติบุคคลที่ซื้อคอร์สเรียนที่ IDMCOUNCIL สามารถนำค่าใช้จ่ายดังกล่าวไปลดหย่อนภาษีได้ถึง 200%
ตารางเรียน
Strategy Planning
สัปดาห์ที่ 1 | 9.00 – 12.00 น.
คอร์สเรียนการวางแผนเชิงกลยุทธ์ หลักสูตรการเรียนการสอนแบบเน้นการคิดเชิงกลยุทธ์ (Strategic Thinking) และกระบวนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ (Strategic Decision Making Process) เพื่อให้ผู้เรียนสามารถตรวจสอบปัจจัยแวดล้อมภายนอกและภายในองค์กร ด้วยการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ อันอยู่ภายใต้แนวคิด SWOT Analysis และกำหนดกลยุทธ์เบื้องต้นจากการพัฒนาด้วย TOWS Matrix และจัดทำตัวชี้วัดเพื่อการประเมินผลให้สอดคล้องกับกลยุทธ์
เนื้อหาหลักสูตร
1. Introduction to Strategic Planning
ความหมายและความสำคัญของกลยุทธ์ กลยุทธ์หรือแบบแผนที่ทำให้เกิดการปฏิบัติเพื่อนำไปสู่จุดมุ่งหมายหรือความสำเร็จที่ได้ตั้งไว้
2. Environmental Analysis
– PESTLE Analysis : การวิเคราะห์ปัจจัยทางการเมือง, เศรษฐกิจ, สังคม, และเทคโนโลยี
– SWOT Analysis : การวิเคราะห์จุดแข็ง, จุดอ่อน, โอกาส, และอุปสรรค
– TOWS Matrix : อุปสรรค , โอกาส , จุดอ่อน , จุดแข็ง
3. Formulating Strategy
การกำหนดมุมมองธุรกิจ เรียนรู้การกำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) และภารกิจ (Mission) การกำหนดวัตถุประสงค์ (Objective) การกำหนดกลยุทธ์ (Strategy) จนไปถึงขั้นตอนการกำหนดแผนปฏิบัติการ (Action Plan) และการสร้างกลยุทธ์ทางธุรกิจและกลยุทธ์ทางการตลาด
4. Implementing Strategy
การนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายขององค์กร โดยมีขั้นตอนต่าง ๆ มากมาย ดังเช่น การกำหนดแผนและการจัดสรรทรัพยากร (Resources Allocation) , การปรับโครงสร้างองค์การ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของการใช้กลยุทธ์และการใช้ทรัพยากร , การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในส่วนของระบบและการพัฒนาทรัพยากรบุคคล และการกระจายกลยุทธ์ (Strategic Deployment) เป็นต้น
5. Evaluating and Controlling Strategy
วิธีการวัดและประเมินความสำเร็จของกลยุทธ์ และ การปรับปรุงแผนกลยุทธ์ตามผลการประเมิน เพื่อให้สามารถบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยพิจารณาจากผลการประเมินแผนกลยุทธ์ ซึ่งรวมถึง ผลการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ , ปัจจัยแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป และความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
6. Business Model Canvas
รูปแบบการเขียนสรุป 9 หัวข้อสำคัญที่อธิบายการดำเนินธุรกิจ ที่ทำให้ผู้บริหารและทีมงานทุกคนสามารถมองเห็นภาพรวมของธุรกิจและมีความเข้าใจในทิศทางเดียวกันและสามารถใช้ในการวิเคราะห์เพื่อปรับกลยุทธ์ต่อยอดให้กับกิจการได้
7. Case Studies and Practical Applications
กรณีศึกษาเพื่อประยุกต์ใช้ทฤษฎีที่ได้เรียนรู้ และนำทฤษฎี หลักการไปใช้ในสถานการณ์จริง
Risk and Opportunity Analysis
สัปดาห์ที่ 1 | 13.00 – 16.00 น.
คอร์สเรียนการวิเคราะห์คู่แข่งเพื่อการวางแผนเชิงกลยุทธ์ หลักสูตรนี้เน้นการวิเคราะห์วัตถุประสงค์และเป้าหมาย กำหนด Risk Matrix ใช้วิเคราะห์ผลกระทบ และโอกาสเชิงกลยุทธ์ (Strategic Opportunity) วิเคราะห์ตลาดและโอกาส วิธีการสร้างแนวป้องกันหรือลดผลกระทบของความเสี่ยง รวมทั้งการจัดลำดับความสำคัญของความเสี่ยงโครงและโอกาส เพื่อทราบแนวทางในการติดตามประเมินผล และรายงานผลได้ เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าจะประสบความสำเร็จทั้งในปัจจุบันและอนาคต (Future Success)
เนื้อหาหลักสูตร
1. Risk Management Model
โมเดลการบริหารความเสี่ยง กรอบการทำงานที่กำหนดขั้นตอนและกระบวนการในการระบุ ประเมิน และจัดการความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อองค์กร
2. Framework (กรอบแนวทางการนำไปปฏิบัติ)
– Principles (หลักการ) : เป็นแนวทางหรือแนวคิดพื้นฐานที่ใช้ในการกำหนดกรอบแนวทางการนำไปปฏิบัติ
– Processes (กระบวนการ) : เป็นขั้นตอนหรือกิจกรรมที่ต้องทำตามเพื่อบรรลุเป้าหมายของกรอบแนวทางการนำไปปฏิบัติ
– Tools (เครื่องมือ) : เป็นอุปกรณ์หรือทรัพยากรที่ใช้ในการสนับสนุนกระบวนการต่างๆ ในกรอบแนวทางการนำไปปฏิบัติ
3. Opportunity Management (กระบวนการบริหารโอกาส)
– Opportunity Identification (การระบุโอกาส) : เป็นการระบุโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้น โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความต้องการของลูกค้า แนวโน้มของตลาด การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และโอกาสทางการแข่งขัน
– Opportunity Assessment) (การประเมินโอกาส) : เป็นการประเมินโอกาสที่ระบุไว้ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความเป็นไปได้ของโอกาส ผลกระทบของโอกาสต่อองค์กร และระดับความสำคัญของโอกาส
– Opportunity Planning (การพัฒนาแผนการดำเนินการ) : เป็นการพัฒนาแผนการดำเนินการเพื่อบรรลุโอกาสที่ประเมินแล้ว โดยแผนดำเนินการจะระบุขั้นตอนหรือกิจกรรมที่จำเป็น ทรัพยากรที่จำเป็น และระยะเวลาในการดำเนินการ
– Opportunity Execution (การดำเนินการ) : ดำเนินการตามแผนการที่พัฒนาขึ้น
– Opportunity Monitoring and Evaluation (การติดตามและประเมินผล) : ติดตามและประเมินผลการดำเนินการ เพื่อให้แน่ใจว่ามีโอกาสในการการบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้
4. Integrated Risk Management
– Comprehensiveness (ความครอบคลุม) : ครอบคลุมความเสี่ยงจากทุกประเภท ทั้งความเสี่ยงทางการเงิน ความเสี่ยงทางปฏิบัติการ ความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี และความเสี่ยงด้านกฎหมาย
– Connectivity (ความเชื่อมโยง) : การเชื่อมโยงความเสี่ยงจากทุกด้านขององค์กรเข้าด้วยกัน เพื่อให้สามารถมองเห็นภาพรวมของความเสี่ยงได้อย่างครบถ้วน
– Continuity (ความต่อเนื่อง) : การบูรณาการระบบการบริหารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ระบบการบริหารความเสี่ยงมีประสิทธิภาพและทันสมัยอยู่เสมอ
Competitor Analysis and Strategy
สัปดาห์ที่ 2 | 09.00 – 12.00 น.
คอร์สเรียนการวิเคราะห์คู่แข่งเพื่อการวางแผนเชิงกลยุทธ์ หลักสูตรนี้เน้นการวิเคราะห์คู่แข่ง การพัฒนากลยุทธ์ การเพิ่มยอดขาย กลยุทธ์การแข่งขันทางการตลาด ตั้งรับและบุกตลาด การจับตลาดเฉพาะ เรียนรู้สูตรและเคล็ดลับความสำเร็จเพื่อนำพาองค์กรสู่การเป็นผู้นำทางการตลาดด้วยแนวทางที่จะเพิ่มยอดขายแก่องค์กร โดยหลักสูตรนี้จะมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เข้าใจถึงทิศทางการขายการตลาดและความต้องการของลูกค้าในอนาคต รวมถึงการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงทางการขายการตลาดได้อย่างมีหลักการ การนำหลักการตลาดต่างๆ มาใช้ เพื่อสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ตามเป้าหมาย
เนื้อหาหลักสูตร
1. Competitor Analysis ความสำคัญของการวิเคราะห์คู่แข่งขัน
การวิเคราะห์คู่แข่งขันช่วยให้เข้าใจภาพรวมของตลาดว่าเป็นอย่างไร มีคู่แข่งรายใดบ้าง คู่แข่งแต่ละรายมีจุดแข็งและจุดอ่อนอย่างไร กำลังทำอะไรอยู่บ้าง ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เรากำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. Learning Market Players
เรียนรู้ผู้เล่นในตลาด (Market Players) ทั้ง 3 ประเภท (ผู้นำตลาด ผู้ท้าทาย ผู้ตาม) มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดอย่างไร
3. Learning Market Players
หลักการทำ Niche Market สร้างความแตกต่างในธุรกิจ การทำการตลาดเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจง
4. Learning Market Players
การใช้ข้อมูลที่ได้รับจากกิจกรรมทางการตลาดและการโฆษณาเพื่อช่วยในการตัดสินใจและปรับกลยุทธ์ตลาด โดยการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำให้การตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. Winback Customer Strategies for Success
เรียนรู้กลยุทธ์เทคนิคที่ทำให้ลูกค้ากลับมาปฏิสัมพันธ์ ซื้อซ้ำ หรือทำตามที่คุณอยากจะให้พวกเขาทำเพื่อให้ตอบโจทย์ทางการตลาดหรือการขายที่ตั้งไว้
6. Five Forces Model
5 โมเดลแรงกดดันทางการแข่งขัน เครื่องมือสำหรับวิเคราะห์คู่แข่ง และสภาพการแข่งขันในตลาด รวมถึงปัจจัยที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ เพื่อวางแผนกลยุทธ์ของกิจการ
7. Database Marketing
กลยุทธ์การตลาดที่อาศัยข้อมูลของลูกค้ามาใช้ในการกำหนดเป้าหมาย สร้างสรรค์เนื้อหา และวัดผลแคมเปญการตลาด
8. Customer Life Value Concept
แนวคิดทางธุรกิจที่นำมาใช้ในการวัดค่าทางการเงินที่บริษัทหรือธุรกิจได้รับจากลูกค้าตลอดระยะเวลาที่พวกเขาเป็นลูกค้า เพื่อช่วยในการประเมินว่าการดูแลลูกค้ามีความคุ้มค่าแค่ไหนต่อธุรกิจในระยะยาว
Personalized Marketing
สัปดาห์ที่ 2 | 13.00 – 16.00 น.
คอร์สเรียน กลยุทธ์การตลาดที่มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเฉพาะเจาะจง หลักสูตรนี้เน้นเข้าถึง Insight จาก Data ผ่านข้อมูลการค้นหาของคนไทย คนทั่วโลก หรือเฉพาะเจาะจงแค่จังหวัดที่คุณสนใจเท่านั้น เพื่อที่นำไปต่อยอดธุรกิจหรือแผนการตลาดให้แม่นยำจาก Data การวิเคราะห์ข้อมูลจากพฤติกรรมการใช้งาน social
เนื้อหาหลักสูตร
1. Personalized Marketing ในเชิง Personalized Communication และ วิธีคิดและการทำ Personalized Product & Service ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การเข้าใจกลุ่มเป้าหมายผ่านการวิเคราะห์ข้อมูล, การสื่อสารที่ปรับแต่งโดยใช้ข้อมูลสังคมและเทคโนโลยี, และวิธีคิดและการทำ Personalized Product & Service โดยการใช้ข้อมูลลูกค้า , ใช้เทคโนโลยีแบบ Real-Time , ใช้ประสบการณ์ทางดิจิทัลที่ปรับให้เหมาะกับผู้ใช้ , ใช้ Email Marketing ที่ปรับให้เหมาะกับบุคคล , ใช้ Chatbots และการสนทนาแบบอัตโนมัติ , การใช้ Social Media ในการสื่อสาร และการใช้การตลาดทางออนไลน์แบบทันสมัย เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้า
– Personalized Marketing การสร้างภาพรวมที่ครบถ้วนและเปรียบเทียบข้อมูลลูกค้าจากหลายแหล่งที่มีอยู่ในระบบธุรกิจเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับลูกค้าแต่ละราย ภายใต้หัวข้อนี้จะพูดถึงขั้นตอนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการทำ Customer Single View ตลอดจนการวิเคราะห์และการใช้ข้อมูลเพื่อการตลาดและบริการที่ปรับเปลี่ยนตามความต้องการของลูกค้า รวบรวมข้อมูลลูกค้า , วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เป็นต้น
– การทำ Omni-channel เพื่อเก็บ Data และเป็นช่องทางการสื่อสารกับลูกค้า การสร้างและดำเนินการแบบ Omni-channel ที่ทำให้ธุรกิจสามารถเก็บข้อมูลลูกค้าอย่างทั่วถึงและมีช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย
2. Personalized/Customized Ad สำหรับหาลูกค้าใหม่ กลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์โฆษณาที่เป็นพิเศษและเข้ากันได้กับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย. นำเสนอข้อความโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งจะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกว่าโฆษณาถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความสนใจและความต้องการของลูกค้าใหม่
3. Personalized Communication สำหรับการสร้าง Customer Experience
การสื่อสารที่ปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละบุคคล โดยอาศัยข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าเป็นพื้นฐาน
4. Personalized Communication สำหรับการ Up-sales และ Cross-sales สำหรับลูกค้าเดิม
5. Personalized Strategy : One to One Marketing
การตลาดที่มุ่งเน้นไปที่ลูกค้าแต่ละราย โดยพิจารณาถึงความสนใจ ความต้องการ และพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อมอบประสบการณ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายมากที่สุด ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงและตอบสนองต่อความต้องการได้อย่างตรงจุด ส่งผลให้ธุรกิจสามารถเพิ่มยอดขาย เพิ่มอัตราการทำซ้ำ และลดต้นทุนทางการตลาดได้
6. การใช้ข้อมูลในแบบ Customer Data Platform (CDP)
– Full-featured CDP (แบบเต็มรูปแบบ) CDP ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและครอบคลุมทุกความต้องการของธุรกิจ โดยสามารถรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ ได้หลากหลาย เช่น ระบบ CRM ระบบ POS ระบบอีเมล ระบบโซเชียลมีเดีย เป็นต้น
– Specialized CDP (แบบเฉพาะทาง) ที่มุ่งเน้นไปที่ความต้องการเฉพาะของธุรกิจ เช่น CDP สำหรับธุรกิจค้าปลีก CDP สำหรับธุรกิจการเงิน เป็นต้น CDP แบบเฉพาะทางมักมีราคาที่ถูกกว่า CDP แบบเต็มรูปแบบ แต่มีความสามารถน้อยกว่า
Selling Content Secret
สัปดาห์ที่ 3 | 09.00 – 12.00 น.
คอร์สเรียนเทคนิคลับคอนเทนต์การขาย หลักสูตรนี้จะนำคุณผ่านทุกขั้นตอนของการสร้างและขายเนื้อหาได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ
เนื้อหาหลักสูตร
1. The Matter of Content Marketing
– Content is King หัวใจสำคัญของสื่อทุกประเภท
2. Content Marketing Funnel มเดลในการวางแผนและสร้างคอนเทนต์การตลาด โดยช่วยกำหนดเป้าหมายและกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับแต่ละขั้นตอนของผู้บริโภคได้
– Awareness (สร้างการรับรู้)
– Consideration (การพิจารณา)
– Decision (การตัดสินใจ)
– Action (การดำเนินการ)
3. Customer Analysis
– Demographic Analysis (วิเคราะห์ข้อมูลเชิงประชากรศาสตร์) วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น อายุ เพศ การศึกษา อาชีพ รายได้ สถานที่ตั้ง เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจถึงความต้องการและพฤติกรรมการซื้อของกลุ่มเป้าหมายได้ในระดับหนึ่ง
– Behavioral Analysis (วิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมการซื้อ) วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อของกลุ่มเป้าหมาย เช่น สินค้าที่ซื้อ ช่องทางการซื้อสินค้า ช่วงเวลาที่ซื้อสินค้า เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจถึงความต้องการและพฤติกรรมการซื้อของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
– Psychographic Analysis (การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพฤติกรรม) วิเคราะห์ข้อมูลเชิงพฤติกรรมเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับทัศนคติ ความเชื่อ ค่านิยม และไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจถึงความต้องการและพฤติกรรมการซื้อของกลุ่มเป้าหมายอย่างครอบคลุมและรอบด้าน
4. Power of Headline เทคนิคและวิธีการเขียน HEADLINE เพื่อดึงดูดลูกค้าคุณภาพบนโลกออนไลน์
– ใช้คำกระตุ้นการตัดสินใจ เช่น “ฟรี”, “ลดราคา”, “เคล็ดลับ”, “วิธี”, “เทคนิค” เป็นต้น จะช่วยกระตุ้นให้ผู้คนอยากคลิกเข้ามาอ่านต่อ
– ใช้ตัวเลข : การใช้ตัวเลขช่วยดึงดูดความสนใจและทำให้หัวข้อดูน่าเชื่อถือมากขึ้น เช่น “10 เทคนิคลดน้ำหนัก”, “5 วิธีเพิ่มยอดขาย”, “7 เหตุผลที่คุณต้องซื้อ” เป็นต้น
– ใช้คำศัพท์ที่สื่อถึงประโยชน์ เช่น “ประหยัด”, “คุ้มค่า”, “ได้ผล”, “สำเร็จ” เป็นต้น จะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้อ่านที่มองหาประโยชน์
– ใช้คำศัพท์ที่สื่อถึงปัญหาหรือความต้องการ เช่น “แก้สิว”, “ลดปวดหลัง”, “เพิ่มสมาธิ” เป็นต้น จะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้อ่านที่ประสบปัญหาหรือมีความต้องการนั้น ๆ
5. Martech Tool for Content Marketing
– รวมเครื่องมือในการสร้างคอนเทนต์ที่แตกต่าง สร้างสรรค์ และตอบโจทย์ลูกค้าบนโลกดิจิทัล
6. Content Marketing Strategies
– แนวทางการวางกลยุทธ์การทำคอนเทนต์และตัวชี้วัดให้เหมาะสมและตอบโจทย์เป้าหมายการทำการตลาด
Data Analytics for Marketer
สัปดาห์ที่ 3 | 13.00 – 16.00 น.
คอร์สเรียน Data Analytics การนำเสนอแผนภาพข้อมูล คอร์ส หลักสูตรนี้เน้นเรียนตั้งแต่พื้นฐาน ความเข้าใจศาสตร์ความสำคัญของ Data ต่อธุรกิจ หลักการพื้นฐานของการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย Data และการวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จาก Data ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
เนื้อหาหลักสูตร
1. Data Marketing for Management
– How Data-Driven Run Marketing Strategy การวางภาพรวมกลยุทธ์การตลาด รวมถึงองค์ประกอบของ Data Driven Marketing Framework ที่จะทำให้เข้าใจกระบวนการการนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์
– Marketing Goal Set Up ทำความเข้าใจแนวทางและเป้าหมายของธุรกิจแต่ละประเภท เพื่อวางแผนทำการตลาดให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่ตั้งไว้
– Data Marketing for Solid Strategy ศึกษาแนวทางการเลือกใช้ข้อมูลและ Use case ต่างๆ ที่ทำให้กลยุทธ์ทางการตลาดได้ผลลัพทธ์ตามที่มุ่งหวังไว้
2. Data Analysis for Marketing Strategy
– Data Marketing Understanding การทำความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของข้อมูล และแนวทางการวิเคราะห์ข้อมูลที่ทำให้เราเข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
– Introduction to Data Advance Analytics ทำความรู้จัก Descriptive Analytics หรือการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงอธิบายที่ทำให้เราเข้าใจการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้มา รวมถึงรู้จัก Diagnostics analytics หรือการวิเคราะห์เชิงวินิจฉันที่ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลสมบูรณ์มากขึ้น
– Hacking data from dashboard เรียนรู้การสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งที่มาต่างๆ เพื่อให้เข้าใจวิธีการผสมผสานการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงอธิบายและเชิงวินิจฉัยเข้าด้วยกัน และเรียงลำดับความสำคัญของข้อมูลเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการตลาด
– Turning data to action แนวทางการนำข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์มาใช้ประโยชน์ทางการตลาดตามหลัก 10Ps พร้อมกรณีศึกษาการนำข้อมูลมาปรับใช้กับธุรกิจจากทั้งไทยและต่างประเทศ
3. Data Collection for Acquisition Strategy
– Methods of Market Research ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการวิเคราะห์การตลาด และข้อควรระวังในการวิจัยการตลาดแต่ละประเภท เพื่อให้กระบวนการวิจัยมีประสิทธิภาพและดำเนินการตามวัตถุประสงค์
– Introduction to Data Marketing Collection ทำความเข้าใจความสำคัญของการศึกษา Customer Journey และแนวทางการเก็บข้อมูลในโลกออนไลน์ โดยเชื่อมโยงกับพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อให้เห็นรูปแบบของข้อมูลที่จะนำไปต่อยอดในขั้นตอนถัดไป
– Get to know Data Acquisition เทคนิคการเก็บข้อมูลที่ยังไม่มี หรือยังไม่มีจากแหล่งต่างๆ รวมถึงในโลกออนไลน์โดยไม่ละเมิดนโยบายคาวมเป็นส่วนตัวของผู้บริโภค เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นปนะโยชน์ต่อการทำงานในกระบวนการถัดไป
4. Data Preparation for Marketing Management
– Business Opportunity with Data Marketing ปูพื้นฐานการจัดเตรียมข้อมูลในมุมมองของธุรกิจเพื่อสร้างความเข้าใจกระบวนการจัดเตรียมและประเภทของข้อมูล
– Data Preparation Overview รู้จักเครื่องมือที่ทำให้การจัดเตรียมข้อมูลเป็นเรื่องง่าย รวมถึงแนวทางการเชื่อมข้อมูลให้สามารถนำไปต่อยอดในกระบวนการ Data Analytics พร้อมกับการลงมือปฏิบัติจริง เกี่ยวกับกระบวนการจัดเตรียมข้อมูลในคลาสเรียน
5. Business Automation & Data Visualization
– The Magic of Business Automation แนวทางในการนำ Business Automation เข้ามาช่วยในการทำการตลาด ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้เลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับกิจกรรมทางการตลาดที่ดำเนินอยู่ และส่งเสริมการทำงาน รวมไปถึงลดข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดจากสถานการณ์ต่างๆ
– Data Visualization Elements รู้จักประเภทของข้อมูลที่สามารถนำไปใช้ในการทำ Data Visualization รวมถึงเข้าใจองค์ประกอบของการทำ Data Visualization ที่ควรรู้และง่ายต่อการนำข้อมูลไปปรับใช้ในเครื่องมือต่างๆ
– Dashboard Creation by Looker Studio ทำความรู้จักเครื่องมือในการทำ Data Visualization อย่าง ‘Looker Studio’ ที่ประมวลผลให้ข้อมูลอยู่ในรูปแแบที่เข้าใจง่าย พร้อมลงมือสร้าง Dashboard เพื่อให้รู้จักการใช้ Feature ในการออกแบบข้อมูลและเหมาะสมกับการนำเสนอให้ผู้อื่น
6. Data Activation and Data Marketing Tool
– How can data drive your marketing strategy การเข้าใจความสำคัญของการนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์หรือส่งเสริมการทำการตลาดที่สามารถขับเคลื่อนธุรกิจให้ไปในทิศทางที่งวางเป้าหมายไว้
– The component of data activation แนวทางการนำข้อมูลมาใช้ในการทำ Marketing Personalization ที่สามารถนำข้อมูลมาช่วยในการตัดสินใจ และออกแบบกระบวนการให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม
– Turn insights into actions using loyalty program by PRIMO ทำความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่าง Sales CRM กับ Loyalty CRM เพื่อเลือกใช้ข้อมูลให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ รวมถึงการเห็นความสำคัญของการจัดเก็บข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่พร้อมใช้งาน เพื่อให้เกิดไอเดียและง่ายต่อการนำออกมาใช้
Testimonial
สนใจเรียนลงทะเบียน!!
กรอกฟอร์มด้านล่างเพื่อรับการติดต่อกลับรับรายละเอียดเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่
คอร์สเรียน Digital Marketing ที่น่าสนใจ
TIKTOK Ads Manager Course
คอร์สเรียน Digital Marketing ที่จะสอนให้ผู้เรียนสามารถบริหารจัดการภาพรวมการตลาดได้อย่างเชี่ยวชาญ พร้อมเทคนิคเคล็ดลับการตลาด ระดับ Specialist
Facebook Instagram Ads Manager
คอร์สสอนโฆษณาบน Facebook Ads และ IG Ads เพื่อเพิ่มฐานลูกใหม่ติดต่อลูกค้าเก่า พร้อมสอนวิเคราะห์และวัดผลโฆษณาเพื่อนำไปปรับปรุง
Customer Journey
เรียนการตลาดออนไลน์
เตรียมเป็นผู้ขายในโซเชียลมีเดีย กับคอร์ส Social Selling 5 ทักษะควรรู้สู่โลกดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง พร้อมใบประกาศนียบัตร