Strategic Transformation for Business Success
เวลาเรียน
ระยะเวลารวม 12 ชั่วโมง / 2 สัปดาห์
เปิดรับสมัครแล้ว
เริ่มเรียน 11 พฤศจิกายน 2567
รายละเอียดหลักสูตร
คำอธิบายหลักสูตร
หลักสูตร “Strategic Transformation for Business Success” เป็นการเรียนรู้ที่เน้นการทำการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและยั่งยืนในธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจสามารถประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน โดยเน้นไปที่การประยุกต์ใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับบริบทและความต้องการของธุรกิจ
วัตถุประสงค์
1. รู้เทคโนโลยีและแนวทางการใช้งานในการพัฒนาธุรกิจ
2. เข้าใจข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับการตัดสินใจ
3. สร้างกลยุทธ์และนวัตกรรมที่เหมาะสมกับธุรกิจ
4. พัฒนาและการเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนในระยะยาว
หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับ
· ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ
· นักการตลาด นักสื่อสารการตลาด
· ผู้ที่สนใจพัฒนาทักษะด้านการตลาด
การรับวุฒิบัตร
หลังจากจบการอบรมตามหลักสูตร IDM Council ขอมอบประกาศนียบัตรระดับนานาชาติที่ ได้รับการยอมรับจากหลายสถาบันเช่น European Qualifications Framework, Scottish Qualification Authority, International Board of Digital Marketing และอื่นๆ อีกมากมาย
รูปแบบการเรียนการสอน
- จัดการเรียนการสอนในระบบ Hybrid ทั้งเรียนแบบ Offline ที่อาคารวรรณสรณ์ (BTS พญาไท) พร้อมเรียน Online แบบ Live ผ่านระบบ
- อาจารย์ผู้สอนและเนื้อหาการสอนเป็นภาษาไทย (เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถสื่อสารและเข้าใจภาษาไทย)
สำหรับนิติบุคคลที่ซื้อคอร์สเรียนที่ IDMCOUNCIL สามารถนำค่าใช้จ่ายดังกล่าวไปลดหย่อนภาษีได้ถึง 200%
ตารางเรียน
Digital Transformation in Action
สัปดาห์ที่ 1 | 09.00 – 12.00 น.
คอร์สเรียนเปลี่ยนธุรกิจในยุคดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ หลักสูตรนี้เน้นDigital Transformation ที่จะส่งเสริมให้เกิดการเติบโตของธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เข้าใจการปรับเปลี่ยน Plat form Business เพื่อรองรับตรงตามความต้องการของลูกค้าและสร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง หลักสูตร Digital Transformation เป็นกุญแจหลักที่ผู้เรียนจะได้รับความรู้ที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ในการนำไปประยุกต์ให้การทำ Digital Transformation ในองค์กรเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย ปฏิบัติได้จริง และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
เนื้อหาหลักสูตร
1. Fundamentals of Digital Transformation
เข้าใจความหมายของคำว่า Digital Transformation อย่างถูกต้อง ความหมายและความสำคัญของ Digital Transformation Digital Transformation ไม่ได้หมายถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เท่านั้น แต่หมายถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานและรูปแบบธุรกิจขององค์กรอย่างครอบคลุมและลึกซึ้ง เพื่อให้องค์กรสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและการแข่งขันในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. Opportunities and Challenges in Digital Transformation
– ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า พฤติกรรมของลูกค้าในยุคดิจิทัลเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก องค์กรจึงจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด
– การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น การแข่งขันทางธุรกิจในยุคดิจิทัลมีความรุนแรงมากขึ้น องค์กรจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อไม่ให้ถูกคู่แข่งแซงหน้า
– โอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด
3. Organizational Adaptation
– กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ขั้นตอนแรกคือการกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการทำ Digital Transformation ว่าต้องการบรรลุอะไร เช่น ต้องการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ต้องการลดต้นทุน เป็นต้น
– วิเคราะห์องค์กร วิเคราะห์องค์กรเพื่อประเมินความพร้อมในการทำ Digital Transformation ว่าองค์กรมีความพร้อมในด้านต่างๆ เช่น เทคโนโลยี บุคลากร วัฒนธรรมองค์กร เป็นต้น
– พัฒนาแผนงาน การพัฒนาแผนงานในการทำ Digital Transformation โดยกำหนดรายละเอียดต่างๆ เช่น เทคโนโลยีที่จะใช้ ระยะเวลาในการดำเนินการ งบประมาณ เป็นต้น
– ดำเนินการตามแผนงาน เมื่อแผนงานได้รับการอนุมัติแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการดำเนินการตามแผนงาน โดยต้องมีการติดตามความคืบหน้าและประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ
– ปรับแผนงาน หากแผนงานไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ จำเป็นต้องมีการปรับปรุงหรือปรับแผนงาน เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
4. Strategic Planning and Competitive Analysis
เข้าใจวิธีการวางกลยุทธ์ และวิเคราะห์ข้อได้เปรียบเพื่อการแข่งขันทางธุรกิจ
5. Digital Transformation Planning and Strategy
ความรู้พัฒนารูปแบบธุรกิจให้เกิด Customer Experience ขึ้นในองค์กร
– Customer Centricity (ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง)
– ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
– สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งเน้นลูกค้า
6. Supporting Technologies and Tools
นำเครื่องมือที่ใช้ในการทำ Digital Transformation มาประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม
– เครื่องมือด้านเทคโนโลยี เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning), การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data), อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT), ความเป็นจริงเสมือน (VR), และความเป็นจริงเสริม (AR)
– เครื่องมือด้านกระบวนการ เช่น กระบวนการทำงานอัตโนมัติ (Business Process Automation), การจัดการข้อมูลลูกค้า (Customer Relationship Management), และการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า (Customer Data Analytics)
– เครื่องมือด้านบุคลากร เช่น การฝึกอบรมด้านดิจิทัล (Digital Literacy Training) และการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล (Digital Skills Development)
Data Visualization
สัปดาห์ที่ 1 | 13.00 – 16.00 น.
คอร์สเรียนการนำเสนอแผนภาพข้อมูล หลักสูตรนี้เน้นนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อสร้างกลยุทธ์ และสร้างมูลค่าทางธุรกิจ จากแหล่งข้อมูลจำนวนมาก จึงต้องมีการนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต้องมีวิธีคิด กระบวนการตัดสินใจ เครื่องมือ มีองค์ความรู้ รวมทั้งบุคลากรที่พร้อมรับมือกับความการเปลี่ยนแปลงและนำเครื่องมือมาวิเคราะห์
เนื้อหาหลักสูตร
1. Basic Concepts in Data Visuali zation
ควรพิจารณาวัตถุประสงค์ของการนำเสนอก่อนออกแบบข้อมูล เพื่อให้ข้อมูลมีความเกี่ยวข้องและตรงตามวัตถุประสงค์ และช่วยให้ผู้ชมสามารถเข้าใจข้อมูลที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านสถิติหรือการวิเคราะห์ข้อมูลมาก่อน
2. Choosing the Right Chart Type for Data Visuali zation
– Data Collection (การจัดเก็บข้อมูล) เก็บจากใคร เก็บแบบไหนเก็บอย่างไร ข้อดี – เสีย ในกรจัดเก็บข้อมูลแต่ละประเภทและการเก็บข้อมูลตาม Customer Journey
– Data Preparation (การจัดเตรียมข้อมูล) ประเภทของข้อมูล การจัดหมวดหมู่และการดึงข้อมูลผ่าน Tools
– Data Visualization (การนำเสนอข้อมูลด้วยรูปภาพ) ทำอย่างไรให้เห็นภาพแล้วเข้าใจง่าย กราฟแต่ละประเภทเพื่อออกแบบ Dashboard ตามจุดประสงค์การใช้งาน
– Data Reading & Analysis (การอ่านและวิเคราะห์ข้อมูล) อ่านและวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เช่น Dashboard Infographic เพื่อหาจุดเชื่อมโยงในการซัพพอร์ตการตัดสินใจในทางการตลาด
3. Data Activation & Adaptation (วิธีนำข้อมูลมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจ)
Strategy and Innovation Creation
สัปดาห์ที่ 2 | 09.00 – 12.00 น.
คอร์สเรียน ความคิดสร้างสรรค์และการสร้างนวัตกรรมเชิงกลยุทธ์ หลักสูตรนี้เน้นกลยุทธ์และนวัตกรรมเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้องค์กรสมัยใหม่ประสบความสำเร็จได้ตามวิสัยทัศน์ ภารกิจ วัตถุประสงค์ และเป้าหมายที่วางไว้ โดยมุ่งกระตุ้นและเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในแนวคิดเรื่องกลยุทธ์และการสร้างนวัตกรรม
เนื้อหาหลักสูตร
1. Innovative Thinking เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ความคิดสร้างสรรค์ การสร้างความคิดใหม่ เป็นเครื่องมือในการสร้างความสามารถทางการแข่งขันของตลาดและธุรกิจ
– การนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ไม่เหมือนใคร ความคิดสร้างสรรค์ช่วยให้คุณสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีคุณสมบัติหรือคุณค่าที่เฉพาะเจาะจง ทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่น่าสนใจและแตกต่างจากคู่แข่ง
– การตอบสนองต่อความต้องการของตลาด การสร้างความคิดใหม่ช่วยให้คุณสามารถตอบสนองต่อความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำเสนอสิ่งใหม่และไม่เคยเห็นมีอาจทำให้ธุรกิจของคุณเด่นชัดในตลาด
– การสร้างความรู้สึกของแบรนด์ที่เข้าใจและสร้างความประทับใจ ความคิดสร้างสรรค์ช่วยให้คุณสามารถสร้างแบรนด์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์และทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นว่าธุรกิจของคุณเป็นผู้นำที่คิดสร้างสรรค์
– การสร้างพื้นที่การตลาดที่เฉพาะเจาะจง การนำเสนอความคิดที่ไม่เหมือนใครช่วยสร้างพื้นที่การตลาดที่เฉพาะเจาะจง ทำให้ธุรกิจมีโอกาสในการเติบโตในตลาดที่มีความสนใจ
2. Logical Thinking and Creative Thinking ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการคิดของมนุษย์ ที่ส่งผลต่อการเกิดความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมใหม่
– Logical Thinking (การคิดเชิงตรรกะ) เป็นกระบวนการคิดที่อาศัยเหตุผลและข้อมูลในการประมวลผลข้อมูล กระบวนการคิดเชิงตรรกะเป็นกระบวนการคิดที่มักใช้แก้ปัญหาหรือวิเคราะห์ข้อมูล
– Creative Thinking (การคิดสร้างสรรค์) เป็นกระบวนการคิดที่อาศัยจินตนาการและความคิดนอกกรอบในการประมวลผลข้อมูล กระบวนการคิดสร้างสรรค์เป็นกระบวนการคิดที่มักใช้คิดค้นสิ่งใหม่ๆ หรือแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
3. Obstacles to Creative Thinking ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการคิด และการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
– ความกลัว ความกลัวมักทำให้เราคิดแบบเดิมๆ และไม่กล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ ความกลัวอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความกลัวความล้มเหลว ความกลัวถูกวิพากษ์วิจารณ์ หรือความกลัวการเปลี่ยนแปลง
– ความเคยชิน ความเคยชินทำให้เรามองไม่เห็นสิ่งใหม่ๆ และคิดนอกกรอบไม่ได้ ความเคยชินอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น ประสบการณ์ ความเชื่อ หรือค่านิยม
– กฎระเบียบ กฎระเบียบอาจถูกจำกัดความคิดและจินตนาการของเรา กฎระเบียบที่เข้มงวดอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น วัฒนธรรมองค์กร นโยบาย หรือกฎหมาย
– สภาพแวดล้อม สภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อความคิดสร้างสรรค์ เช่น สภาพแวดล้อมที่กดดัน สภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย หรือสภาพแวดล้อมที่ขาดการสนับสนุน ก็สามารถกลายเป็นอุปสรรคต่อการคิดสร้างสรรค์ได้
4. Innovative Synthesis Pathways การสร้างไอเดียใหม่ผ่านเทคนิคการคิดเชิงสังเคราะห์ (synthesis-typed thinking) การคิดเชิงสร้างสรรค์ (creative thinking) การคิดเชิงประยุกต์ (applicative thinking)
– Synthesis-typed thinking (การคิดเชิงสังเคราะห์) เป็นกระบวนการคิดที่รวบรวมข้อมูลต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อสร้างแนวคิดใหม่ เทคนิคการคิดเชิงสังเคราะห์ที่ใช้ในการสร้างไอเดียใหม่
– Creative thinking (การคิดเชิงสร้างสรรค์) เป็นกระบวนการคิดที่ทำให้เกิดแนวคิดใหม่ๆ ที่ไม่ซ้ำใคร เทคนิคการคิดเชิงสร้างสรรค์ที่ใช้ในการสร้างไอเดียใหม่
– Applicative thinking (การคิดเชิงประยุกต์) เป็นกระบวนการคิดที่นำแนวคิดใหม่มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ เทคนิคการคิดเชิงประยุกต์ที่ใช้ในการสร้างไอเดียใหม่
5. Generating Fresh Ideas through Adaptation Techniques
เทคนิคการผลิต Idea ใหม่ ๆ ปรับตามโจทย์และสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เทคนิคการสร้าง 100 ไอเดียใหม่ภายในเวลา 10 นาที
Business Development and Transformation
สัปดาห์ที่ 2 | 13.00 – 16.00 น.
คอร์สเรียนเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยการพํฒนาและเปลี่ยนแปลง หลักสูตรนี้เน้นเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การกำหนดตัวชี้วัดให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติเป็นสิ่งสำคัญ หลักสูตรนี้มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะ ความรู้ ความเข้าใจในการกำหนด KPIs เชิงกลยุทธ์ การติดตามและประเมินผลงาน เพิ่มประสิทธิผลของงานและเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
เนื้อหาหลักสูตร
1. Market Research ดูความต้องการของตลาดแรงงานสำหรับทักษะต่างๆ
– การสำรวจความคิดเห็น เป็นวิธีการรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณจากกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ โดยผู้วิจัยจะจัดทำแบบสอบถามเพื่อสอบถามความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างเกี่ยวกับทักษะต่างๆ ที่มีความสำคัญต่อตลาดแรงงาน
– การสัมภาษณ์เชิงลึก เป็นวิธีการรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพจากกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก โดยผู้วิจัยจะสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างเพื่อเจาะลึกถึงความคิดเห็นและมุมมองเกี่ยวกับทักษะต่างๆ ที่มีความสำคัญต่อตลาดแรงงาน
– การวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่ เป็นวิธีการรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลการจ้างงาน ข้อมูลการศึกษา และข้อมูลประชากรศาสตร์
2. Customer Development ช่วยให้ลูกค้าองค์กรมองเห็น Skill Gaps และวางแผนการพัฒนาบุคลากรในองค์กรได้อย่างเหมาะสม
3. Partnerships สร้างความร่วมมือกับองค์กร สถานศึกษา หรือผู้สอน
4. Operations จัดการงานที่เกี่ยวข้องกับคอร์สต่างๆ ที่มีอยู่ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
5. Key Factor of Success การกำหนดปัจจัยแห่งความสำเร็จของธุรกิจ
6. Strategy Map การใช้แผนที่กลยุทธ์ ในการนำกลยุทธ์ไปสู่แผนปฏิบัติการ เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการกำหนดและสื่อสารกลยุทธ์ขององค์กร โดยแสดงความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุประสงค์ขององค์กรในมุมมองที่แตกต่างกัน 4 มุมมอง ได้แก่
– Financial Perspective (มุมมองด้านการเงิน) : แสดงถึงเป้าหมายทางการเงินขององค์กร เช่น ผลกำไร การเติบโต มูลค่าตลาด
– Customer Perspective (มุมมองด้านลูกค้า) : แสดงถึงเป้าหมายในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า เช่น ความพึงพอใจของลูกค้า การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
– Internal Process Perspective (มุมมองด้านกระบวนการภายใน) : แสดงถึงเป้าหมายในกระบวนการภายในขององค์กร เช่น ประสิทธิภาพของกระบวนการ นวัตกรรม
– Learning and Growth Perspective (มุมมองด้านการเรียนรู้และการเติบโต) : แสดงถึงเป้าหมายในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์กร เช่น ความรู้และทักษะของพนักงาน วัฒนธรรมองค์กร
7. Steps for using strategy maps to translate strategies into action plans
ขั้นตอนการใช้แผนที่กลยุทธ์ในการนำกลยุทธ์ไปสู่แผนปฏิบัติการ
– กำหนดวิสัยทัศน์และพันธกิจขององค์กร วิสัยทัศน์และพันธกิจเป็นพื้นฐานของกลยุทธ์ขององค์กร โดยวิสัยทัศน์เป็นภาพอนาคตที่องค์กรต้องการเป็น ส่วนพันธกิจคือหน้าที่หลักขององค์กรที่ต้องดำเนินการเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์
– วิเคราะห์สภาพแวดล้อมขององค์กร การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมขององค์กรจะช่วยให้องค์กรเข้าใจปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อองค์กร เช่น ปัจจัยทางการตลาด ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ปัจจัยทางเทคโนโลยี ปัจจัยทางสังคม และปัจจัยทางกฎหมาย
– วิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนขององค์กร การวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนขององค์กรจะช่วยให้องค์กรเข้าใจปัจจัยภายในที่ส่งผลต่อความสำเร็จขององค์กร
– กำหนดเป้าหมายขององค์กร เป้าหมายขององค์กรเป็นการกำหนดสิ่งที่องค์กรต้องการบรรลุ โดยเป้าหมายควรมีความชัดเจน วัดผลได้ ท้าทาย และบรรลุได้
– กำหนดตัวชี้วัดของเป้าหมาย ตัวชี้วัดของเป้าหมายเป็นเครื่องมือในการวัดความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมาย โดยตัวชี้วัดควรมีความชัดเจน วัดผลได้ เชื่อถือได้ และสอดคล้องกับเป้าหมาย
– กำหนดแผนงาน แผนงานเป็นการกำหนดแนวทางในการบรรลุเป้าหมาย โดยแผนงานควรมีความชัดเจน ครอบคลุม และสามารถดำเนินการได้
– สื่อสารกลยุทธ์ การสื่อสารกลยุทธ์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ทุกคนในองค์กรเข้าใจกลยุทธ์และมีส่วนร่วมในการดำเนินการ
Testimonial
สนใจเรียนลงทะเบียน!!
กรอกฟอร์มด้านล่างเพื่อรับการติดต่อกลับรับรายละเอียดเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่
คอร์สเรียน Digital Marketing ที่น่าสนใจ
TIKTOK Ads Manager Course
คอร์สเรียน Digital Marketing ที่จะสอนให้ผู้เรียนสามารถบริหารจัดการภาพรวมการตลาดได้อย่างเชี่ยวชาญ พร้อมเทคนิคเคล็ดลับการตลาด ระดับ Specialist
Facebook Instagram Ads Manager
คอร์สสอนโฆษณาบน Facebook Ads และ IG Ads เพื่อเพิ่มฐานลูกใหม่ติดต่อลูกค้าเก่าพร้อมสอนวิเคราะห์และวัดผลโฆษณาเพื่อนำไปปรับปรุง
Customer Journey
เรียนการตลาดออนไลน์
เตรียมเป็นผู้ขายในโซเชียลมีเดีย กับคอร์ส Social Selling 5 ทักษะควรรู้สู่โลกดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง พร้อมใบประกาศนียบัตร